กทม. 3 เม.ย. – ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ป.ป.ท. ได้เข้าไปตรวจสอบการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมาย 37 จังหวัดเร่งด่วน ปรากฏว่าพบทุจริตถึง 34 จังหวัด และพบ 3 ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เอี่ยวทุจริตอนุมัติงบประมาณ และมีเงินไหลกลับเข้าบัญชี
ถือเป็นครั้งแรกที่เลขาธิการ ป.ป.ท.ออกมาเปิดเผยว่ามีผู้บริหารระดับสูงของกรมในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 3 ราย เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในปี 2560 โดยมีพฤติการณ์อนุมัติงบประมาณและปรากฏเส้นทางการเงินไหลกลับเข้าบัญชี แต่ยังไม่ระบุวงเงินและไม่ยืนยันว่าเป็นกรณีเงินทอนหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการระดับล่างในกรม 1 ราย ข้าราชการนอกกรม 1 ราย และข้าราชการเกษียณ ขณะนี้กำลังตรวจสอบเชิงลึก และส่งรายชื่อให้ส่ง ปปง.ตรวจสอบธุรกรรมการเงิน หากพบหลักฐานความผิดสามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ทันที
ส่วนการตรวจสอบในจังหวัดเป้าหมายเร่งด่วน 37 จังหวัด ที่ได้รับงบประมาณตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป รวม 503 ล้านบาท ผลล่าสุดพบความผิดปกติใน 34 ศูนย์ฯ ผู้กระทำความผิดเบื้องต้นคือ ผอ.ศูนย์ทั้งหมด ซึ่งได้ส่งเรื่องให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการทางวินัยและทางปกครองแล้ว และยังพบผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดนครพนม 1 ราย มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่ให้กระทำทุจริตและคุกคามพยานซึ่งได้ส่งข้อมูลถึงกระทรวงศึกษาธิการให้ย้ายออกนอกพื้นที่แล้วเช่นกัน
ในวันที่ 5 เมษายนนี้ ป.ป.ท.เตรียมเสนอบอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีอาญา จังหวัดที่ตรวจสอบพบการทุจริตเพิ่มอีก 24 แห่ง หลังการตรวจสอบภาพรวมทั่วประเทศพบการทุจริตแล้ว 56 ศูนย์ มีผู้ถูกกล่าวหา 96 ราย คาดว่าการตรวจสอบทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายนนี้
ขณะเดียวกัน บางจังหวัดที่ไม่พบการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เช่น ปราจีนบุรี นครศรีธรรมราช และสิงห์บุรี ก็ต้องตรวจสอบซ้ำอีก หลังจากพบความผิดปกติในการนำเงินสงเคราะห์ไปจัดซื้อสิ่งของในราคาเกินจริงมาก. – สำนักข่าวไทย