ฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 31 มี.ค. – นายกรัฐมนตรี เสนอต่อที่ประชุม GMS Summit อย่างไม่เป็นทาง ให้มีการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อรักษาระดับน้ำในลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมเน้นย้ำความร่วมมือด้านสิ่งเวดล้อม เพื่อเป็นเศรษฐกิจสีเขียว
“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ หรือ GMS Summit ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานว่า การประชุม GMS Summit ครั้งที่ 6 เริ่มแล้ว วันนี้ (31 มี.ค.) โดยก่อนการประชุมแบบเต็มคณะ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมแบบไม่เป็นทางการของการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ในหัวข้อ ปัจจัยสำคัญของแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำแม่โขง 6 ประเทศ ที่จะเพิ่มพูนประโยชน์จากความสำเร็จที่ผ่านมา และการประสบความสำเร็จท่ามกลางภูมิทัศน์การพัฒนาของโลกที่เปลี่ยนแปลง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงถึงความสำเร็จของ GMS เพื่อเชื่อมโยงประชาชนกว่า 340 ล้านคน เข้าไว้ด้วยกัน เกิดการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านคน ทำให้เกิดรายได้เข้าสู่อนุภูมิภาค จำนวนคนจนลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงปัจจัยของความสำเร็จในอนาคต ที่ขึ้นอยู่กับการทำงานอย่างร่วมมือร่วมใจกัน บนพื้นฐานของหลักการ 3M ความไว้เนื้อเชื่อใจ (Mutual Trust) การเคารพซึ่งกันและกัน(Mutual Respect) และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน (Mutual Benefit)
นายกรัฐมนตรี ยังได้เสนอแผนการทำงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า และในระยะยาว เพื่อรับมือกับความท้าทาย และสภาพแวดล้อม ที่ต้องเผชิญในอนาคต ในประเด็น 5 หัวข้อ คือ 1.การร่วมมือกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรับมือกับวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีคุณภาพ และใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากการเชื่อมโยง โครงข่ายคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ 3. ความร่วมมือกันดำเนินการตามความตกลง ว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CBTA) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่ออย่างเป็นรูปธรรม 4. การบริหารจัดการแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการรักษาระดับน้ำ และหาแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อรักษาระดับน้ำที่เหมาะสม และ 5 ร่วมเสริมสร้างความแข็งแกร่งความร่วมมือด้านการเกษตร และสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรี ยังเห็นว่า ควรร่วมกันยกระดับมูลค่าสินค้าทางเกษตร ด้วยการกำหนดมาตรฐานการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และผลิตอาหารที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดราคา และการขยายตลาดสินค้าเกษตรนอกภูมิภาค โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่มีคุณภาพ
นอกจานี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำประเด็นความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขงสีเขียวอย่างยั่งยืนต่อไป .- สำนักข่าวไทย