โคลัมโบ 18 มี.ค.- ประธานาธิบดีศรีลังกายกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศใช้ทั้งประเทศเมื่อ 12 วันก่อนแล้วในวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้นหลังเกิดเหตุจลาจลต่อต้านชาวมุสลิม มีผู้เสียชีวิตและร้านรวงถูกทำลาย
ประธานาธิบดีไมตรีปาลา สิริเสนาทวีตหลังกลับจากการเยือนญี่ปุ่นว่า ตัดสินใจยุติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา หลังจากประเมินแล้วว่าสถานการณ์ความปลอดภัยดีขึ้น ผู้นำศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม เพราะเกิดเหตุจลาจลต่อต้านชาวมุสลิมหลายจุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมืองแคนดี้ เมืองท่องเที่ยวห่างจากกรุงโคลอมโบไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 115 กิโลเมตร ต้นเหตุเริ่มจากชายชาวสิงหลถูกชายมุสลิม 4 คนรุมทำร้ายเสียชีวิตเมื่อต้นเดือน จากนั้นชาวสิงหลได้ยกพวกไปเผาบ้านเรือนและร้านค้าชาวมุสลิมในวันรุ่งขึ้น พบศพชาวมุสลิมคนหนึ่งบ้านที่ถูกเผา ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียด ต่อมาชายสิงหลคนหนึ่งถือระเบิดมือจะไปก่อเหตุที่มัสยิดแต่ระเบิดทำงานเสียก่อนทำให้เขาเสียชีวิต
นับเป็นครั้งแรกที่ศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังสงครามกลางเมืองกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีลัมยุติลงในปี 2552 ตำรวจเผยว่า สถานการณ์ในเมืองแคนดี้กลับสู่ปกติแล้ว มีผู้ถูกจับกุมกว่า 300 คน และจะถูกควบคุมตัวไปจนถึงสิ้นเดือน ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนและร้านค้าชาวมุสลิมที่เสียหายแล้ว ขณะที่รัฐสภาศรีลังกาได้ออกแถลงการณ์ขอโทษชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศและมีประชากรเพียงร้อยละ 10 ส่วนชาวสิงหลมีมากถึง 3 ใน 4 ของชาวศรีลังกาทั้งประเทศ 21 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย