กรุงเทพฯ 12 มี.ค.- นายแผน ร้องอธิบดีศาลอาญา – กรรมการสิทธิ อ้างถูก ” ผบช.ก.” บังคับให้กลับคำให้การ ยันไม่เคยปรับปรำใคร
นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน ซึ่งเป็นพยานที่อ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล คู่กรณีของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ก้มเก็บสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ตลาดเรดซิตี้ เดินทางเข้าพบ อธิบดีอัยการ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกหมายเรียกให้รับทราบข้อหา ให้การเท็จในวันที่ 15 มี.ค.นี้ ซึ่งเนื้อหาในเอกการสารระบุว่า
ข้าพเจ้า นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม อยู่ 46 ปี อาชีพรับจ้างเป็นพนักงานฝ่ายบริการยานพาหนะ ธนาคารกรุงไทย จำกัด สำนักงานเขตกาญจนบุรี ด้วยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้นัดหมายให้ข้าฯ ไปให้ให้ปาคำและสอบถามข้าฯ ว่าข้าฯ กับครูปรีชา ใคร่ครวญ รู้จักกันมาก่อนหรือไม่ ข้าฯ ได้ให้การกับกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ว่าไม่เคยรู้จักกัน เหตุที่ตำรวจนำตัวข้าฯ มาสอบสวนนั้น เนื่องจากข้าฯ ได้เล่าให้พนักงานธนาคารด้วยกันฟังว่า กรณีที่เป็นข่าวทางสถานีโทรทัศน์ และสื่อมวลชนทุกแขนงว่า ข้าฯ เห็นผู้ชายกับผู้หญิง ซึ่งหมายถึงหมวดจรูญ ว่าเก็บฉลากได้บริเวณหน้าศาลพระพรหมประมาณ 20 เมตร ในตลาดนัดเรดซิตตี้ ก่อนที่กองสลากจะประกาศออกรางวัล ข้าฯ สามารถจำรูปร่างหมวดจรูญได้ แต่ผู้หญิงรู้แต่ว่าเตี้ยกว่าหมวดจรูญ ข้าฯ เห็นเพียงเท่านั้น แต่สลากจะมีเลขอะไรข้าฯ ไม่ทราบ ข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนภูธรภาค 7 ไปตามความจริง
ต่อมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ และผู้การกองปราบปรามได้ให้เจ้าพนักงานตำรวจกองปราบปราม โทรแจ้งให้ข้าฯ ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน ข้าฯ ก็ไปพบตามนัด พอไปถึง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ และผู้การกองปราบปรามได้เอาสำนวนการสอบสวยของกองบัญชาการตำรวจภาค 7 ให้ข้าฯ ดู พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ประกอบด้วย ผู้การกองปราบปราม และตำรวจกว่า 30 นาย ได้มาล้อมข้าฯ และบอกับข้าฯ ว่าถ้าให้การเหมือนกับกองบัญชาการตำรวจภาค 7 เช่นเดิม “ติดคุกแน่ เพราะเป็นการให้การเท็จ” และแนะนำให้การใหม่ ว่า “คับคล้ายคับคลา” และให้การตามที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ และคณะทำงานแนะนำ จะไม่ติดคุกแน่และได้ถ่ายรูปข้าฯ ไว้ เกิดความกลัวจึงหลงเชื่อตามคำแนะนำ
ต่อมาเมื่อข้าฯ ทำตามคำแนะนำแล้วได้ดูข่าวทางสื่อมวลชน ว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ จะออกหมายจับข้าฯ จึงเกิดความกังวล จึงมาร้องขอความเป็นธรรม และข้าฯ ยังคงยืนยันว่าที่ข้าฯ ให้การต่อกองบังชาการภูธรภาค 7 นั้นถูกต้องตรงกับความเป็นจริงและไม่ได้ปรักปรำใคร
หากกองบัญชาการสอบสวนกลางและกองบังคับการกองปราบปราม ยื่นคำร้องให้ศาลออกหมายจับข้าฯ ขอศาลได้โปรดนัดไต่สวนคำร้อง
ทั้งนี้ ข้าฯ และนายปรีชา ใคร่ครวญ และหมวดจรูญ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ข้าฯ ไปให้การกับพนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ตามคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ได้ปรักปรำใคร และให้การตามความจริงที่เกิดขึ้นและไม่ได้ให้การยืนยันกับตำรวจว่าหวยเป็นของใคร ขอศาลได้โปรดคุ้มครองพยาน ด้วย
หลังจากยื่นเอกสารดังกล่าว ได้เดินทางไปกรรมการสิทธิมนุษยชน ศูนย์ราชการ อาคาร B ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม โดยเนื้อหาก็คล้ายกับเอกสารการยื่นร้องขอความเป็นธรรม กับอธิบดีศาลอาญา.-สำนักข่าวไทย