กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- “รอมแพง” เจ้าของลิขสิทธิ์นิยาย” “บุพเพสันนิวาส” ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ แจ้งความเอาผิดกับผู้นำบทประพันธ์ไปเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้เขียนนามปากกา รอมแพง – สำนักพิมพ์ แจ้งความร้องทุกข์พร้อมเรียกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์นิยาย “บุพเพสันนิวาส” กับผู้ที่คัดลอกสำเนานวนิยายดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางสื่อออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ว่าบริษัท แฮปปี้ บานานา จำกัด โดย นางสาวกวิยา เนาวประทีป ในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในงานวรรณ(หนังสือบุพเพสันนิวาส)ในการผลิต และ จัดจำหน่ายหนังสือ ตลอดทั้งได้รับมอบอำนาจในการปกป้องลิขสิทธิ์ในงานวรรณ(หนังสือบุพเพสันนิวาส) มาจาก นางสาวจันทร์ยวีร์ (หรือ นางสาวเกศณี ) สมปรีดา เจ้าของลิขสิทธิ์ โดยผู้เสียหายได้มีการตรวจสอบทางสื่อสังคมออนไลน์(เฟซบุ๊ก) พบว่า มีผู้กระทำความผิดซึ่งมีการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ด้วยการทำซ้ำ ดัดแปลง และ นำเอางานวรรณกรรม (หนังสือบุพเพสันนิวาส) ของผู้เสียหายไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางสื่อออนไลน์ดังกล่าวข้างต้น โดยในเบื้องต้นทางผู้เสียหายแจ้งว่าจะรวบรวมพยานเอกสาร ที่พบจากสื่อออนไลน์และตรวจสอบให้ละเอียดและครบถ้วนพร้อมหนังสือมอบอำนาจเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561
สำหรับข้อหาความผิดของผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในเรื่องดังกล่าวแบ่งเป็น
1.ผู้โพสต์ มีความผิดฐานทำซ้ำและเผยแพร่ คือ “ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการทำซ้ำดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานวรรณกรรม (หนังสือบุพเพสันนิวาส) ”ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช 2537 โทษจำคุก 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-800,000 บาท
2.ผู้แชร์ มีความผิดฐาน “ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานวรรณกรรม (หนังสือบุพเพสันนิวาส) ”ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช 2537 โทษจำคุก 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท
รอง โฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนรับทราบถึงการกระทำซึ่งอาจเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ทางโซเชียลมิเดีย ไม่ว่าจะเป็นการ คัดลอก เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ใช้บริการทางโซเชียลมิเดียต้องระมัดระวังกันมากขึ้น ไม่ได้ใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ รวมไปถึงผู้ใช้บริการควรคำนึงถึงการกระทำใดๆ ซึ่งอาจเป็นการเข้าข่ายความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ โดยขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเจ้าของ ซึ่งการใช้ในบางลักษณะจะมีข้อยกเว้น แต่มีอีกมากมายที่ถือว่าเป็นการละเมิด .-สำนักข่าวไทย