เริ่มใช้กำไล EM อย่างเป็นทางการวันแรก

กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “กำไล EM” ได้ยินกันมานานแล้วว่า กระทรวงยุติธรรมเตรียมนำมาใช้กับผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หากไม่มีวงเงินประกันตัว ซึ่งวันนี้มีการเปิดศูนย์ควบคุมและติดตามฯ อย่างเป็นทางการ หน้าตาของ “กำไล EM” เป็นอย่างไร และใช้งานอย่างไร ติดตามจากรายงาน



นี่คือหน้าตาของกำไลข้อเท้า Electronic Monitoring (EM) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นำมาใช้งานวันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันแรก สำหรับติดตามตัวหรือจำกัดการเดินทางของผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ชั้นนี้ยังไม่ใช่นักโทษ แต่คือผู้ต้องหาระหว่างรอศาลพิพากษาคดี ระยะแรกนำร่องใช้ใน 23 ศาลทั่วประเทศ จำนวน 5,000 เครื่อง 


หลักเกณฑ์การใช้กำไล EM สามารถใช้ได้กับผู้ต้องหาทุกคดี ตั้งแต่อัตราโทษจำคุกเบา ไปจนถึงอัตราโทษจำคุกหนัก 20 ปีขึ้นไป หรือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อตำรวจส่งฝากขังต่อศาล ศาลจะใช้ดุลพินิจร่วมกับแบบทดสอบประเมินความเสี่ยงในการหลบหนี หรือยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หากศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ในรายที่ไม่มีเงินหรือหลักทรัพย์ประกันตัว ก็สามารถขอใช้กำไล EM ได้ทันที 


โดยเจ้าหน้าที่ศาลจะทำการติดตั้งเข้ากับข้อเท้าของผู้ต้องหา เปิดสัญญาณจีพีเอส ระบบจะทำงานทันที โดยรายงานพิกัดเข้ามายังศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีการออกนอกพื้นที่ควบคุม เช่น เขตชายแดน ออกนอกประเทศ หรือบ้านที่ถูกคุ้มครอง แม้กระทั่งถอด ตัด หรือทุบทำลาย ระบบจะแจ้งเตือนมายังศูนย์แห่งนี้ เพื่อส่งข้อมูลให้ศาลติดตามตัวหรือตักเตือน หากในรายที่เข้าข่ายหลบหนีต้องถูกจับกุม   

กำไลติดตามตัวชิ้นนี้ ถูกออกแบบให้มีขนาดไม่ใหญ่ เท่าๆ กับสมาร์ทโฟน น้ำหนักเบาเพียง 3 ขีด ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้ต้องหาไม่ต้องสูญเสียโอกาสในชีวิต

แม้ไม่สามารถป้องกันการหลบหนีได้ 100% แต่จะทำให้ระบบติดตามตัวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการนำร่องใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนี้ ถือเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้มีหลักทรัพย์ประกันตัวกับผู้ด้อยโอกาส ไม่มีหลักทรัพย์วางประกันในชั้นศาล เป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้ได้รับความเท่าเทียม มีโอกาสในการต่อสู้คดี และลดจำนวนแออัดของผู้ต้องขัง ช่วงปีแรกจะเป็นระยะประเมินผลถึงความคุ้มค่าในการนำไปใช้ในระยะยาว หรือนำไปใช้ในทุกศาลทั่วประเทศ สำหรับสถิติผู้มีโอกาสได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีกำไล EM ติดตามตัว ตั้งแต่ชั้นไต่สวนพิจารณาคดี ไปจนถึงชั้นอุทธรณ์ ฎีกา มีประมาณ 40,000 คน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก

รวบแล้วโจรสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 102 บาท จากร้านทองในห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ขยายผลตามรวบภรรยาได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ตาก

ติดเชื้อแอนแทรกซ์

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน และมีผู้สัมผัส 377 คน หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบหลายปี ส่วนที่เลย ชาวบ้านผวา พบวัว 3 ตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

โลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง การปลอมแปลงมีโทษ

กรมธนารักษ์ แจงโลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง แต่เป็น “อลูมิเนียมบรอนซ์” หลังโซเชียลแห่แชร์นำไปทำเป็นแหวนและสร้อยคอ ย้ำการปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์มีโทษ

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ตั้งคนจีนนั่งที่ปรึกษา ลั่นหลังจากนี้คงไม่มีใครทำเรื่องเช่นนี้อีก ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว ย้ำไม่มีผลกระทบงบประมาณ ชี้ไม่สามารถเบิกจ่ายอะไรได้