มุกดาหาร 2 พ.ค. – มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน และมีผู้สัมผัส 377 คน หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบหลายปี ส่วนที่เลย ชาวบ้านผวา พบวัว 3 ตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
กรณีในพื้นที่ดอนตาล มุกดาหาร พบเชื้อโรคแอนแทรกซ์ เป็นพื้นที่แรก หลังไม่พบเชื้อโรคนี้มาหลายปี และจุดเริ่มต้นของเคสแรกในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากที่ชาวบ้านตำบลเหล่าหมี ไปสัมผัสและกินเนื้อวัวในงานบุญ ทำให้มีไข้ มีตุ่มที่ผิวหนัง จากนั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้เพียง 3 วันก็เสียชีวิต โดยแพทย์วินิจฉัยว่าติดเชื้อแอนแทรกซ์
ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้ประกาศเกียรติคุณชื่นชม นายแพทย์นนชยา ใจตรง แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป โรงพยาบาลดอนตาล ศิษย์เก่าแพทย์ขอนแก่น ว่าเป็นผู้แม่นยำวินิจฉัยผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ โดยย้อมสีแกรม (Gram Stain) พบเป็นแกรมบวกชนิดแท่ง ร่วมกับพบแผลที่มือคนไข้ ทำให้วินิจฉัยโรคได้รวดเร็ว รู้เร็ว แจ้งเร็ว ทำให้สามารถควบคุมป้องกันโรคและหากลุ่มเสี่ยงโรคแอนแทรกซ์ได้เร็ว ป้องกันความเสียหาย และป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดในวงกว้างได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนนายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ออกประกาศมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ เพิ่มเติมเป็นฉบับ 2 ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด คือให้จัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ปัองกันการเคลื่อนย้ายโค กระบือ เข้าและออกในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาล รวม 4 จุด ประกอบด้วย จุดตรวจบ้านป่าพะยอม จุดตรวจบ้านนาห้วยกอก จุดตรวจบ้านภูวง และจุดตรวจหน้าสถานีตำรวจภูธรป่าไร่
ส่วนก่อนหน้านี้ฉบับ 1 ที่ประกาศออกมา 9 ข้อ ยังคงใช้มาตรการเดิม อาทิ ห้ามฆ่าสัตว์ โตยเฉพาะโค กระบือ ในห้วงงานบุญประเพณีบุญเดือนหกทุกกรณี ให้ อสม.สำรวจประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และบันทึกข้อมูลลงในระบบของกระทรวงสาธารณสุข ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์คนในพื้นที่รู้ลักษณะอาการการติดเชื้อแอนแทรกซ์ และหากพบโค กระบือ แพะ มีอาการไข้สูง ไม่กินหญ้า แต่ยืนเคี้ยวเอื้อง มีน้ำลายปนเลือดไหลออกมา หายใจลำบาก ยืนโซเซ กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ให้กักขังสัตว์ดังกล่าว และแจ้งปศุสัตว์ตรวจสอบทันที และตั้งแต่พรุ่งนี้ (3 พ.ค.) ให้ปศุสัตว์ดอนตาล ฉีดวัคชีนโค กระบือ และแพะ ในพื้นที่แพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ และห้ามฆ่าหรือชำแหละโค กระบือ และแพะ เป็นเวลา 21 วัน นับตั้งแต่มีการฉีดวัคซีน
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดการพบเชื้อแอนแทรกซ์ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้เพียง 1 คน แต่ล่าสุดพบผู้ป่วยเข้าข่ายเป็นโรคแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน ขณะนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และพบผู้สัมผัสอีก 377 คน โดยแบ่งเป็น ผู้ชำแหละเนื้อวัว 28 คน ผู้กินเนื้อดิบ 232 คน ผู้สัมผัสอยู่บ้านเดียวกับผู้ชำแหละ 117 คน ทั้งหมดได้รับการตรวจคัดกรอง และรับยาป้องกันแล้ว

และสำหรับพื้นที่บ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี มีการเข้าตรวจสอบจุดชำแหละวัวที่มีการแพร่เชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ และฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบเพื่อคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค และได้วางแผนควบคุมโรคสัตว์ โดยเจ้าหน้าที่ได้สำรวจ และวางแผนฉีดวัคซีนวัวในรัศมี 5 กิโลเมตร กับวัว 1,222 ตัว และฉีดยาปฏิชีวนะให้วัวบริเวณพื้นที่เสี่ยงอีก 124 ตัว พร้อมย้ำเตือนชาวมุกดาหาร งดกินลาบเนื้อดิบ ก้อยดิบ ซอยจุ๊ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค แอนแทรกซ์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้
ชาวเลยผวาแอนแทรกซ์ หลังพบวัว 3 ตัว ตายไม่ทราบสาเหตุ
ที่ จ.เลย นายสมัย ฤทธิศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านแก่วตาว หมู่ 6 ตำบลนาดี อำเภอด่านซ้าย ได้รับแจ้งจากนายจัด ฤทธิศักดิ์ ลูกบ้านวัย 60 ปีว่า หลังจากนำวัวไปปล่อยป่า ในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างแม่น้ำเหืองไม่มาก และไม่ไกลจากพรมแดนไทย-ลาว พบว่าวัวเพศเมีย อายุ 3-5 ปี 3 ตัว ตายห่างกันไม่เกิน 20 เมตร โดยไม่มีแผล และไม่ทราบสาเหตุ ทำให้กังวลว่าโรคแอนแทรกซ์ระบาดหรือไม่ ผู้ใหญ่บ้านจึงต้องรีบรายงานนายอำเภอด่านซ้าย และประสานกรมปศุสัตว์ด่านซ้าย มาร่วมตรวจสอบสาเหตุการตาย ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งห้ามนำเนื้อมากิน ห้ามเคลื่อนย้าย หรือสัมผัส โดยเด็ดขาดแล้ว
ย้ำว่าเคสผู้เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์รายล่าสุดนี้ นับเป็นรายแรกของไทยในรอบหลายปี เนื่องจากสาธารณสุขรายงานว่าพบผู้ป่วยรายล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ซึ่งรายนี้เป็นผู้ป่วยชายชำแหละแพะที่ตายแล้วและรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดจนหาย และควบคุมโรคได้ ส่วนปีที่พบการระบาดมากที่สุดคือปี 2538 ในตอนนั้นมีรายงานว่าพบผู้ป่วย 102 คน
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง “ลาว” ก็พบการระบาดเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว (พ.ศ.2567) และแค่เดือนเดียวมีผู้ป่วยมากถึง 54 คน ทำให้ลาวต้องออกประกาศแนวทางการควบคุมโรค ห้ามซื้อ ขาย เคลื่อนย้ายเข้าออกสัตว์ภายในเมืองโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามโรงฆ่าสัตว์ในเมืองชำแหละโค กระบือ รวมถึงห้ามประกอบอาหารจากสัตว์ที่ตายไม่ทราบสาเหตุ.-สำนักข่าวไทย