ทำเนียบฯ 26 ก.พ.-“วิษณุ” เมิน “สมชัย” สมัครเลขาธิการ กกต. ยันไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้ง ระบุอาจใช้ ม.44 ในการต่ออายุ “บุญส่ง น้อยโสภณ” ให้ทำหน้าที่ กกต. หลังพ้นวาระ เชื่อ กกต.ที่มีอยู่ สามารถทำงานได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสรรหาว่าที่ กกต.ที่หลายคนยังคงกังวล เกี่ยวกับสเปคเทพ จะทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือไม่ ว่า “สเปคเทพ” เป็นสิ่งที่พูดกันไปเอง เพราะคุณสมบัติของ กกต.ก็เหมือนกับคุณสมบัติขององค์กรอิสระอื่น ๆ
“ขั้นเทพที่ผมเห็นก็มีคนเดียว คือ โดม ปกรณ์ ลัม ส่วนสเปคเทพจะหายากหรือไม่ อย่าเพิ่งประมาท เพราะคนที่มีความสามารถมีเยอะ และเชื่อว่าในที่สุด จะสามารถหาได้” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายการเมือตั้งข้อสังเกตว่าการสรรหา กกต.ในครั้งนี้ถูกคว่ำเพราะไม่ถูกใจ คสช.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยว ซึ่ง คสช.ไม่เกี่ยว จะไปสั่งอะไรทั้งสิ้น หากบางคนผ่าน บางคนไม่ผ่าน ก็จะพูดว่าเป็นใบสั่ง คสช.ให้ผ่าน อย่างไรก็โดน ทั้งขึ้นทั้งล่อง
“ต้องยอมรับกลไกการคัดเลือก กกต. เพราะส่งไปให้ สนช.เลือก สนช.ก็จะเป็นผู้พิจารณา ในอดีตเคยมีกรณีที่ส่งไปให้สภาฯ เลือก แต่สภาฯ ก็ไม่เอา เช่น ไม่เอา ป.ป.ช. ไม่เอาเลขาฯ กฤษฎีกา ดังนั้นก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า กกต.รักษาการ สามารถจัดการเลือกตั้งใหญ่ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่สิ่งที่กังวล คือ กกต.เก่า กลัวจะเกิดการเปลี่ยนม้ากลางแม่น้ำ เกรงว่ากำลังจัดการเลือกตั้ง แล้วได้ กกต.ใหม่เข้ามา กกต.เก่าก็ต้องออก ส่วนคนใหม่จะพะวักพะวง ขณะที่คนเก่าก็กลัวที่จะถูกฟ้อง แต่ยืนยันว่า กกต.เก่าทำได้ ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นและเลือกตั้งใหญ่
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประกาศสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. โดยไม่ลาออกจากตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะจะสามารถลาออกจากตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง หลังจากที่ได้ตำแหน่งเลขาธิการ กกต.แล้วก็ได้ภายใน 15 วัน
เมื่ถามว่าจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ให้ไปถามประชาชน แต่เข้าใจความหมายที่นายสมชัยไม่ลาออกจากกรรมการการเลือกตั้ง เพราะอาจจะถอนตัวก็ได้ หากคิดว่าจะเกิดปัญหาในอนาคต ส่วนเหตุผลที่บอกว่าการมาสมัครเลขาธิกา กกต.ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่ผิดที่จะคิดเช่นนั้น แต่หากอนาคตเห็นว่าไม่ราบรื่น ก็อาจจะคิดใหม่ก็ได้ ไม่แปลก
เมื่อถามว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้ไม่ราบรื่น นายวิษณุ ยกตัวอย่างว่า หากเป็นเลขาธิการ กกต. ก็ต้องลาออกจากกรรมการการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ กกต.หายไป 1 คน และหากเวลานั้น มีใครล้มหายตายจากไปอีก ก็จะเหลือ กกต.เก่าไม่กี่คน ขณะที่ กกต.ใหม่ ก็ยังไม่ได้มา ตรงนี้อาจเกิดความยุ่งยาก และอาจเป็นจุดให้นายสมชัยพิจารณาว่าเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ไม่เอาแล้วเลขาธิการ กกต. ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
เมื่อถามว่า หากนายสมชัยได้เป็นเลขาธิการ กกต.แล้วลาออกจากกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการตั้งคนใหม่มาแทนได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.ที่มีอยู่ บางเรื่องจะทำงานได้ แต่บางเรื่องจะกระทบกับความเชื่อมั่น เมื่อถึงเวลาจะมีคำตอบเอง
ต่อข้อถามว่า จะใช้อำนาจมาตรา 44 ในการตั้งคนไปนั่งตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งที่ว่างลงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ ไม่สามารถใช้มาตรา 44 ในการตั้ง กกต.ใหม่ แต่ต้องใช้สภาฯ เลือกให้มีคนรักษาการไปก่อน
“ส่วนจะทำอย่างไร มีวิธี แต่ยังไม่ขอบอกในเวลานี้ ขอย้ำว่าไม่กระทบอะไรทั้งสิ้น ไม่กระทบต่อโรดแมปใหญ่ ต่อให้ กกต.ตายทั้งหมด 5 คน ก็ไม่กระทบในเวลานี้ แต่หากมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ กระทบแน่นอน แต่จะสมมติแบบนั้นไปทำไม” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า ภายในปีนี้ จะต้องมีการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ กกต.บางคนต้องเกษียณอายุราชการ คือ นายบุญส่ง น้อยโสภณ นายวิษณุ กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ต้องกังวล เพราะมีการเขียนในกฎหมายไว้ค่อนข้างคล่องตัวมากกว่าการเลือกตั้งระดับชาติ เพราะเขียนไว้ให้ผู้อื่นจัดการการเลือกตั้งได้ แต่การเลือกตั้งระดับชาติไม่ได้เขียนไว้เช่นนั้น
เมื่อถามว่า หากนายบุญส่งเกษียณอายุราชการ ขณะที่นายสมชัยไปเป็นเลขาธิการ กกต. ก็จะเหลือ กกต.เพียง 3 คน จะจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทำได้ เพราะหากนายสมชัยไปเป็นเลขาธิการ กกต. คงไม่มีใครสามารถเหนี่ยวรั้งนายสมชัยไว้ได้ แต่สำหรับนายบุญส่ง มีวิธีการเหนี่ยวรั้ง เพราะหากพ้นวาระเมื่ออายุ 70 ปี สามารถใช้มาตรา 44 ในการต่ออายุได้ ดังนั้น กกต.เก่าทั้ง 4 คน ยังคงสามารถจัดการเลือกตั้งใหญ่ได้.- สำนักข่าวไทย