ประจวบคีรีขันธ์ 24 ก.พ.-เจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกด่านสิงขร กวาดล้างขบวนการค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง-กล้วยไม้เถื่อน แต่ข่าวรั่วพ่อค้าชาวเมียนมาหนีกระเจิง ทิ้งของกลางมูลค่าหลายแสนบาท
นายวันชัย สิงห์โต ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า หัวหน้าสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านค้าภายในตลาดนัดวิสาหกิจชุมชน ด้านหลังศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบค้าซากสัตว์ป่าสงวนและกล้วยไม้ผิดกฎหมาย วางขายอย่างเปิดเผยโดยไม่เกรงกลัวความผิดในบริเวณตลาดนัด แต่ข่าวการจับกุมรั่ว ทำให้พ่อค้าชาวต่างชาติวิ่งหนีจ้าละหวั่น โดยทิ้งสินค้าผิดกฎหมายจำนวนมาก มูลค่าหลายแสนบาท ให้เจ้าหน้าที่ยึด และพ่อค้าบางส่วนได้ปล่อยนกขุนทอง และนกกรงหัวจุก เพื่อไม่ให้ถูกยึดเป็นของกลาง เนื่องจากสินค้ามีราคาสูงมีโทษหนัก
ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพียงรายเดียว คือ นางมะพิว ซาน อายุ 30 ปี ชาวบ้านมูด่อง จ.มะริด ประเทศเมียนมา พร้อมของกลางที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้แช่เย็นและในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ซากตะพาบน้ำ ตะกวด กระจง ชะมดเช็ด อีเห็นข้างลาย กระรอกดง และเม่นขนาดใหญ่ที่ชำแหละแล้ว น้ำหนักรวมกว่า 50 กิโลกรัม พร้อมยึดกล้วยไม้ป่าและพืชป่าหวงห้ามอีกกว่า 10,000 ต้น น้ำหนักกว่า 2 ตัน จากนั้นได้นำผู้ต้องหาและของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดี
จากการสอบสวนนางมะพิว ให้การรับสารภาพว่า มีเพื่อนชาวเมียนมานำซากสัตว์ป่าที่ล่าได้ในเขตประเทศเมียนมา นำมาขาย โดยเดินทางผ่านด่านตรวจ ตชด.146 ค่ายพระมงกุฎเกล้า แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ ซึ่งนำมาจำหน่ายทั้งขายปลีกและขายส่งให้ร้านขายอาหารป่าและประชาชนทั่วไปที่นิยมบริโภคของป่า เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครองเพื่อการค้า ส่วนซากกล้วยไม้ทั้งหมดไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไปทำลายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการค้าซากสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้ากล้วยไม้เถื่อนให้กับนักท่องเที่ยวที่ด่านสิงขร ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะกล้วยไม้พันธุ์หายากบางชนิดมีพ่อค้ารับซื้อเพื่อไปจำหน่ายที่ตลาดนัดสวนจตุจักร.-สำนักข่าวไทย