กรุงเทพฯ
17 ก.พ.-กสิกรไทยคาดบาททรงตัวในระดับแข็งค่าต่อเนื่องหลังต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิพันธบัตรไทย
บริษัท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทกลับมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า
4 ปีครั้งใหม่ที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ
ในวงกว้าง ทั้งเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก (เงินยูโรและเงินเยน)
ตลอดจนสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเงินดอลลาร์ฯ ไม่สามารถฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าข้อมูลล่าสุดจะสะท้อนว่า
เงินเฟ้อของสหรัฐฯ จากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตทยอยปรับสูงขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาท ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสถานะกลับมาซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างด้วยเช่นกัน
สำหรับในวันศุกร์ (16 ก.พ.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ
31.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นจากระดับ 31.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 ก.พ.)
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถกลับมายืนเหนือระดับ
1,800 จุด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,805.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.09%
จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 40.51% จากสัปดาห์ก่อน
มาที่ 47,428.35 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai
ปิดที่ 526.79
จุด เพิ่มขึ้น 0.04% จากสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์ถัดไป
(19-23 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.70-31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,795 และ 1,785 จุด
ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,820 และ 1,840 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รายงานตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส
4/2560 และข้อมูลการส่งออกเดือนม.ค. 2561 ของไทย ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ
ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ
(เบื้องต้น) เดือนก.พ. นอกจากนี้
ตลาดอาจรอประเมินสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
จากบันทึกการประชุมเฟดเมื่อเดือนม.ค. และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ตลอดจนรายงานดัชนี PMI ของประเทศสมาชิกยูโรโซน
และญี่ปุ่นในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน–สำนักข่าวไทย