สรท.ประเมินเงินบาท-ค่าแรงฉุดส่งออกโตร้อยละ 3.5

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – สรท.ประเมินค่าเงินบาทและค่าแรงขั้นต่ำส่งผลกระทบภาคส่งออกหนักแน่ ยอมปรับลดส่งออกเหลือโตจริงแค่ร้อยละ 3.5 จากเป้าที่คาดไว้โตร้อยละ 5.5 แนะภาครัฐหาแนวทางช่วยเหลือด่วน


น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศ (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกตลอดปี 2560 แม้จะโตถึงร้อยละ 9.9 มูลค่าการส่งออกถึง 236,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยปี 2561 ทาง สรท.มองว่ายังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5.5 แต่คงต้องตามดูว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศที่ส่งผลต่อการส่งออกของไทยอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องตลอดเดือนมกราคมและต้นกุมภาพันธ์นี้ และจากการปรับขึ้นอัตราแรงงาน 5-22 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ แม้ว่าทาง สรท.จะพยายามให้หน่วยงานกำกับดูแลช่วยไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไปหรือให้มีการชะลอการปรับอัตราแรงงานออกไปก่อน 1 ปี แต่เมื่อผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ทาง สรท.จึงมีการประเมินว่าทั้ง 2 ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม สินค้าไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง โดยรวมหายไปไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.5 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้การเติบโตของการส่งออกปีนี้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3.5 จากที่คาดการณ์ไว้จะเติบโตถึงร้อยละ 5.5 


ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาทางผู้ส่งออกแต่ละกลุ่มสินค้าได้มีการปรับตัวและปรับการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าด้วยการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือแม้แต่เจรจาต่อรองทำความเข้าใจกับคู่ค้าแจ้งถึงเหตุผลที่จะขอปรับราคาสินค้าส่งออกกันใหม่ เพื่อให้ผู้ส่งออกลดผลกระทบเหล่านี้ลงบ้าง และยังคงอยากให้ภาครัฐมาดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนไปมาก และขอยืดระยะเวลาการขึ้นค่าแรงงานไป 1 ปี ก่อนขยายเวลามาตรการลดหย่อนภาษีเอสเอ็มอี 1.15 เท่า ออกไปเป็น 2 ปี จากเดิมจะมีผลถึงแค่สิ้นปีนี้ และควรขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่นำเข้าเครื่องจักรและนำระบบดิจิทัลมาปรับปรุงธุรกิจเป็นเวลา 5 ปี ตลอดจนลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร รวมถึงควรลดเงินสมทบที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้ประกันสังคมจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1-3 และที่สำคัญ คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะต้องสอดคล้องกับทักษะแรงงาน โดยมีใบประกาศรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานรองรับอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์