กก.ปฏิรูป กม.ตั้งเป้ายกเลิก กม.ที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันของประเทศ

กรุงเทพฯ  2 ก.พ.- คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ตั้งเป้ายกเลิกกฎหมายล้าสมัย กฎหมายที่ไม่ผลทางปฏิบัติ กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ  เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  ลดความประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้  (2 ก.พ.)  คณะกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมาย  เปิดรับฟังความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการปฏิรูปกฎหมาย โดย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการฯ  กล่าวว่า  คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายมีหน้าที่ในการเสนอแผนที่จัดทำไว้ 5 ปี อาทิ การยกเลิกกฎหมายล้าสมัย ที่บัญญัติก่อนปี 2500 และเตรียมเสนอยกเลิกกฎหมายที่ประกาศใช้แล้ว ไม่มีผลทางปฏิบัติ หรือสร้างปัญหาต่อประชาชน ให้อนุกรรมการระดับกระทรวงดำเนินการ  หากไม่ดำเนินการเร่งรัด ก็จะเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเร่งรัดต่อไป  

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า  ส่วนคณะกรรมการการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน มีอำนาจในการเสนอกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี และสามารถเสนอความเห็นระหว่างการพิจารณากฎหมาย  ที่ผ่านมาได้เร่งรัดร่างกฎหมาย ที่เสนอมาจาก สปช. และ สปท. 12 ฉบับ และได้เร่งรัด จัดทำ และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายกว่า 24 ฉบับ โดยได้ยกร่าง ปรับปรุง หรือ ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ การดำเนินธุรกิจของประชาชน ให้มีความทันสมัย รองรับไทยแลนด์ 4.0 เป็นการดำเนินการแบบ “ทวิยุทธศาสตร์” แปลว่า “ทางใคร-ใครเลือก” คือ การผลักดันกลุ่มที่พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศพร้อมกันด้วย


ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย และกรรมการในคณะอนุกรรมการปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ หรือดำเนินธุรกิจของประชาชน  กล่าว  เนื่องจากปัจจุบันพบว่า กฎหมายไทยยังคงมีความยุ่งยากซับซ้อน และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึง เป็นกาจำกัดสิทธิ และเพิ่มภาระให้แก่ประชาชนมาก 

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า  การจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ต้องมีการปฏิรูปประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และลดความประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยแบ่งการดำเนินการ ระยะแรก คือ การแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของประชาชน  ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเรื่องขอมติจากคณะรัฐมนตรี  

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า  ระยะที่ 2  ทบทวนกฎหมายที่กำหนดให้ประชาชนและภาคธุรกิจจะต้องขออนุญาตจากรัฐ  ก่อนประกอบธุรกิจ จากเดิมที่มีทั้งหมด 6,000 ฉบับ เหลือ 1,500 ฉบับ  โดยจะมีศูนย์รวมที่ส่วนกลางเท่านั้น จะไม่มีส่วนท้องถิ่นอีกต่อไป  เพื่อลดความยุ่งยากในการขออนุญาต ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดช่องทางในการทุจริต หรือประพฤติมิชอบของหน่วยงานได้มาก จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2561


นายกอบศักดิ์  มั่นใจว่า การปฎิรูปกฎหมายจะสามารถดำเนินการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น  กฎหมายที่มิชอบ และกฎหมายที่ไม่ได้มีการบังคับใช้มานาน เพื่อจัดหมวดหมู่  อำนวยความสะดวก เพิ่มขีดการแข่งขัน และสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ หลังจากการชี้แจงหลักการของคณะกรรมการชุดต่างๆ แล้ว ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิรูปกฏหมายด้านต่างๆ ด้วย        .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

ชาวอเมริกันออกไปเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้นำประเทศคนต่อไป ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนางคอมมาลา แฮร์ริส