อินเดีย 26 ม.ค.-นายกรัฐมนตรี และผู้นำอาเซียน ร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ในฐานะแขกเกียรติยศ พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย เน้นความเชื่อมโยง สร้างเสถียรภาพทางทะเล เพื่อความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย ว่าได้มุ่งกระชับความร่วมมือภายใต้หลัก 3 ประการ คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2022 และเร่งเจรจาความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ที่เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจา หรือ RCEP ให้แล้วเสร็จภายในปี 2018 ขณะที่ความร่วมมือทางทะเลจะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย เห็นชอบปฏิญญาเดลี สาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนและอินเดีย ทั้งมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สร้างความเชื่อมโยง และลดช่องว่างการพัฒนา
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดียนั้น เป็นไปด้วยดี และจะมีความร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต โดยไทยกำลังเร่งพิจารณาบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU เพื่อความส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัลระหว่าง 2 ประเทศ และขอให้อินเดียสนับสนุนการซื้อยางพาราและปาล์มน้ำมันจากไทย โดยอินเดียยินดีรับไว้พิจารณา
ส่วนความร่วมมือทางทะเลเห็นพ้องกันว่า การรักษาความความสงบทางทะเล ควรต้องดำเนินการควบคู่กับการรักษาทรัพยากรทางทะเลด้วย ขณะเดียวกัน มุ่งเน้นความเชื่อมโยงด้านต่างๆ โดยขณะนี้มีโครงการถนน 3 ฝ่าย อินเดีย ไทย เมียนมา คาดแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
สำหรับแนวคิดอินโด-แปซิฟิกนั้น จะมีการศึกษาให้เกิดความร่วมมืออย่างแท้จริง ทั้งนี้ ไทยจะรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานอาเซียน-อินเดีย ในเดือนสิงหาคมนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคและพหุพาคีให้มากขึ้น
วันนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา และผู้นำที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ได้เข้าร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ครั้งที่ 69 ในฐานะแขกเกียรติยศ ตามคำเชิญของนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย โอกาสนี้รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียได้น้อมถวายรางวัลเกียรติยศแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดียด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.30น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานกองทัพอากาศปาลาม กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลาประมาณ 20.10 น.-สำนักข่าวไทย