กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – โรงไฟฟ้า TOP SPP รีไฟแนนซ์เงินกู้คืนไทยออยล์
นางภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี บมจ. ไทยออยล์ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด (TOP SPP) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ โดยไทยออยล์ถือหุ้น 100% ได้ทำการรีไฟแนนซ์เงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในกลุ่ม (Inter-Company Loan) ที่ได้กู้ยืมจาก บมจ.ไทยออยล์ วงเงิน 8,500 ล้านบาท นับเป็นการเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนให้กับกลุ่มไทยออยล์ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ในอนาคต เช่น โครงการเชื้อเพลิงสะอาด (Clean fuel Project:CFP) ที่จะขยายกำลังกลั่นจาก 275,000 บาร์เรล/วัน เป็น 400,000 บาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ การรีไฟแนนซ์ดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายน 2560 เป็นโครงการเงินกู้ร่วมแบบมีหลักประกันแก่บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อปรับโครงสร้างเงินกู้ของ TOP SPP ให้สอดคล้องกับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาเงินกู้และต้นทุนการกู้ยืมหลังจากที่ TOP SPP ได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ ทำให้ภาพรวมความเสี่ยงโครงการลดลง โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการก่อสร้าง โดยการเจรจาสัญญาเงินกู้ รวมถึงกระบวนการร่างสัญญาในครั้งนี้สามารถดำเนินการให้เสร็จภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน (มิย.-กย.60)
โครงการเงินกู้ร่วมแบบมีหลักประกันแก่ บจ.ท็อป เอสพีพี ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเงินกู้ประเภทProject Finance วงเงินรวม 8,500 ล้านบาท อายุ 19 ปี ส่วนที่ 2 เป็นเงินกู้ประเภท Revolving Working Capital วงเงินรวม 1,400 ล้านบาท ซึ่ง บจ.ท็อป เอสพีพี ได้ลงนามในสัญญาสินเชื่อ (Facility Agreement) กับ 4 สถาบันการเงิน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) และ บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เรียบร้อยแล้ววันที่ 29 กันยายน 2560. – สำนักข่าวไทย