กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – กระแสความนิยมการลงทุนในบิทคอยน์ยังแรงต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงนี้ราคาบิทคอยน์ตกลงมาอย่างหนัก อยู่ที่ประมาณ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ/บิทคอยน์ หลายประเทศกำลังกังวลว่า ฟองสบู่บิทคอยน์อาจจะแตก ดังนั้น นักลงทุนต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจสูญเงินได้
“บิทคอยน์” คือ สกุลเงินดิจิทัล หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “คริปโตเคอเรนซี” ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ถูกสร้างขึ้นมาจากนักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่น ชื่อ นายซาโตชิ นากาโมโตะ เมื่อปี 2552 และมีการใช้ในโลกไซเบอร์ จับต้องไม่ได้ และหลายประเทศไม่ยอมรับว่าบิทคอยน์เป็นสกุลเงิน รวมทั้งประเทศไทยด้วย
บิทคอยน์ จึงเป็นเงินสกุลดิจิทัลที่อยู่นอกระบบ ไม่มีธนาคารกลางหรือแบงก์ชาติไหนๆ หนุนหลัง หรือเข้ามาแทรกแซงได้ คนที่อยากได้บิทคอยน์ ต้องทำเหมืองขุด หรือต้องลงทุนคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อแก้ปัญหาเชิงคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน หากแก้ได้จะได้รับบิทคอยน์เป็นรางวัล และนำไปเก็บไว้ในบัญชี Digital Wallet โดยที่ไม่ต้องแสดงตัวตนใดๆ ปัจจุบันมีการขุดบิทคอยน์ไปแล้ว 16.3 ล้านบิทคอยน์ เหลืออีก 4.7 ล้านบิทคอยน์
บิทคอยน์กลับมาได้รับความนิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากใช้วิธีนี้ซื้อบิทคอยน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น แลกเปลี่ยนเก็งกำไร จนราคาพุ่งทะยานไม่หยุด แต่เมื่อเปิดทำการปี 2561 ราคาบิทคอยน์ผันผวนร่วงลงแรง หลังจากธนาคารกลางหลายประเทศประกาศควบคุม เพราะเกรงฟองสบู่บิทคอยน์จะแตก และมีผลกระทบในวงกว้าง
มีคำถามต่อมาว่า ราคาบิทคอยน์ที่ร่วงลงแรงอยู่ในขณะนี้ น่าลงทุนหรือไม่ ราคาจะปรับขึ้นไปถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในสิ้นปีนี้ ตามที่นักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดการณ์หรือไม่ หรือฟองสบู่บิทคอยน์กำลังจะแตกจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เห็นว่า การลงทุนในบิทคอยน์มีความเสี่ยงสูง ต้องศึกษาให้รอบด้าน ฟังทั้งข้อมูลเชิงบวกและลบ เพราะหากเสียหาย ผู้ลงทุนต้องรับความเสียหายเองทั้งหมด
การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงเสมอ โดยเฉพาะการลงทุนที่มีช่องโหว่อาจจะไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา หรืออาจมีการหลอกลวง ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน. – สำนักข่าวไทย