สุพรรณบุรี 13 ธ.ค.-กองปราบบุกสุพรรณบุรีตรวจสอบลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เจ้าปัญหา หลังหญิงวัย 71 แจ้งความลอตเตอรี่หาย ด้านตำรวจท้องที่สอบเครียดพยานแวดล้อมพบพิรุธหลายอย่าง พร้อมประสานตรวจ DNA
จากกรณี น.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/9 หมู่ 6ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ธ.ค.60 จำนวน 1 คู่ เลข 451005 และได้ไปลงบันทึกประจำวันวันที่ สภ.สามชุกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.60 หลังจากลอตเตอรี่ออก ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 นางประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สมบุญ สียางนอก สว.สอบสวน สภ.สามชุก ว่าลอตเตอรี่ใบดังกล่าวเป็นของตนเองที่ทำหล่นหายไป จนทำให้มีข้อพิพาทเป็นคดีความกันอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าว จ.สุพรรณบุรี ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ไพฑูร ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.สามชุก จ.สพรรณบุรี ว่าได้สอบปากคำนางประดับ ได้ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 พ.ย.60 นางประดับพร้อมด้วยนางตูน เพื่อนบ้านได้ไปจ่ายตลาดที่ตลาดสดชลมาก ริมถนนสาย 340 บริเวณสีแยกไฟแดง อ.สามชุก เพื่อซื้อของมาประกอบอาหารในงานศพญาติที่วัดบางขวาก ต.ย่านยาว อ.สามชุก โดยก่อนจะไปซื้อของได้แวะซื้อลอตเตอรี่ที่แผงรถเข็นบริเวณหน้าตลาด จากนายเปี๊ยก โดยซื้อเลข 451005 มีนางตูน เป็นคนหยิบให้ จากนั้นก็ได้กลับไปเตรียมตัวทำกับข้าวเพื่อเลี้ยงแขกที่วัด โดยนำลอตเตอร์รี่ใบนั้นเก็บไว้ในเสื้อชั้นใน ซึ่งมีกระเป๋าลับ จนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ย.60 นางประดับได้นำลอตเตอรี่ใบดังกล่าว ออกมาโชว์ภายในบริเวณงานศพที่วัดอีกครั้ง ก่อนจะยัดเก็บไว้ที่เดิม อีกหลายชั่วโมงต่อมาพบว่าลอตเตอรี่ได้หายไป จึงได้สอบถามบรรดาคนที่มาช่วยงานที่วัดว่าเห็นลอตเตอรี่ของตนเองไหมแต่ก็ไม่ใครพบ จนกระทั่งมาทราบจากเพื่อนบ้านว่านางพรทิพย์ นำลอตเตอรี่มาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สามชุก ว่าถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 451005 จึงสงสัยว่าลอตเตอรี่ใบดังกล่าวเป็นของตนเองที่หายไป โดยนางประดับ ยังให้การว่าในวันที่ลอตเตอรี่หาย น.ส.พรทิพย์ ก็อยู่ในงานด้วย จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.สามชุก
ส่วนความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานฝ่ายโจทย์อีกหลายปากที่นางประดับ จันทร์อ่วม อ้างถึง เช่นนายสกล เศรษฐไพบูลย์ หรือเปี๊ยก คนขายลอตเตอรี่ ซึ่งให้การว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของนายเปี๊ยกจริง และนางประดับ นางตูนมาซื้อลอตเตอรี่จริง และจำไม่ได้ว่าซื้อเลขอะไรไป เนื่องจากวันๆ หนึ่งมีคนวนเวียนมาซื้อลอตเตอรี่เยอะจนจำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไรไปบ้าง และได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปถึงสำนักงานกองสลากเพื่อขอนำลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจ DNA ที่ติดอยู่ และหารอยนิ้วมือแผงที่ติดอยู่ในใบลอตเตอรี่ ซึ่งเมื่อรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดฝ่ายโจทย์แล้ว หากมีความน่าเชื่อว่าคดีมีความเชื่อมโยงกัน ก็จะออกหมายเรียกเชิญ น.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ แจ้งข้อกล่าวหาฐานยักยอกทรัพย์ หรือลักทรัพย์ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเข้าไปถึงข่ายความผิดไหน และต้องสอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ ถึงการได้มาของลอตเตอรี่ดังกล่าวด้วยว่าที่มาที่ไปของการได้ลอตเตอรี่ได้มาอย่างไร ซึ่งคดีนี้ไม่มีความซับซ้อนและไม่ใช่มีการทำกันเป็นขบวนการแต่อย่างใด ต้องขอสรุปพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนก็จะทราบเรื่องทั้งหมด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 200/4 ม.6 ต.ย่านยาว อ.สามชุก ซึ่งเป็นบ้านของนางประดับ พบเพียงนางประยูร แพร่งหระโทก อายุ 49 ปี ลูกสาวของนางประดับ เผยว่า แม่ไม่อยู่บ้าน ขณะนี้แม่ได้เดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองกองปราบ ซึ่งทางตำรวจกองปราบได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้วโดยได้ขอตรวจกล้องวงจรปิดภายในวัดบางขวากซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดนำไปเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งในกล้องวงจนปิดจะเห็นความเคลื่อนไหวทั้งหมด ส่วนเรื่องของพยานหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของแม่ตนเองจริง ก็มีเพื่อนบ้าน และคนที่มาช่วยงานศพที่วัดเห็นและทราบกันหลายคน เนื่องจากก่อนที่ลอตเตอรี่จะหายแม่ได้เอาลอตเตอรี่ออกมาโชว์ด้วย ซึ่งก็ต้องฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.พรทิพย์ เลขที่่ 66/9 หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำอยู่ห่างจากบ้านของนางประดับ ประมาณ 1 กม. ได้รับคำตอบจากญาติว่า น.ส.พรทิพย์ ออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า ไม่ทราบว่าไปไหน.-สำนักข่าวไทย