สศช.เปิดรายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาส3

กทม.7 ธ.ค.-สศช.รายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาส 3 ชี้การจ้างงานลดลง ทั้งภาคเกษตรและสาขาการผลิต-การโรงเเรมอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น โดยพบบัณฑิต 4.5 เเสนคนไม่เคยทำงานมาก่อน ขณะที่การเจ็บป่วยโรคหวัด-ปอดอักเสบเพิ่มขึ้น เเต่การเกิดอุบัติเหตุลดลง


นายปรเมธี  วิมลศิริ  เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานแถลงข่าวรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 3/2560 โดยพบว่าในไตรมาสนี้ ในเรื่องการจ้างงาน  มีการจ้างงานลดลงร้อยละ 1.6 โดยเฉพาะภาคการเกษตร เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย  เช่นเดียวการจ้างงานนอกภาคเกษตร ในการก่อสร้าง การผลิตเเละการโรงเเรมก็ลดลงร้อยละ 1.8 เเม้มูลค่าการผลิตยังขยายตัวได้ดีก็ตามเพราะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตมากกว่ากำลังคนเเละมีการส่งออกที่ขยายตัวดีในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เเละยานยนต์มากกว่าด้านอื่น ทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.19 โดยร้อยละ 43 หรือประมาณ 4.5 เเสนคนเป็นผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ไม่เคยทำงานมาก่อน โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาหางานมาเเล้ว 6 เดือน ส่วนผู้ว่างงานคนอื่น ๆ เป็นผู้ที่เคยทำงานมาก่อนส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับชั้น ม.ปลายลงมาเเละใช้เวลาหางานเเล้ว 3 เดือน โดยกลุ่มนี้น่าห่วง เสี่ยงตกงานเพราะเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นทุกวัน ขณะค่าจ้างโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 


อย่างไรก็ตามคาดว่าต้นปี2561จะมีการจ้างงานดีขึ้น ซึ่งประเด็นที่ต้องตามต่อคือการปรับตัวของภาคเกษตรจากเเนวโน้มจำนวนเเรงงานที่ลดลงต่อเนื่องจากที่เคยมีสัดส่วนร้อยละ42ในปี2544 เหลือร้อยละ 31ในปี2559 เพราะส่วนใหญ่อายุมากกว่า 50 ประกอบกับการทำงานหนักทำให้การทดเเทนเเรงงานมีน้อย


ขณะที่หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไปภายใต้การกำกับเเละสินเชื่อบัตรเครดิตลดลง ,ด้านสุขภาพมีการเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้น เช่น โรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มเป็น 2 เท่าเเละพบมากในกลุ่มอายุ 15-24 ปี 

ขณะที่โรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3จึงต้องเฝ้าระวังสุขภาพจิตคนไทยที่มีเเนวโน้มป่วยโรคซึมเศร้าเเละโรควิตกกังวลเพิ่มขึ้นในภาวะน้ำท่วม ทั้งนี้ในด้านสุขภาพต้องเร่งส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หลังพบว่า10 ปีที่ผ่านมา คนไทยประมาณ 1 ใน 3 มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ มีพฤติกรรมเนือยนิ่งในเเต่ละวันสูงถึง 14 ชม.ต่อวัน

ส่วนด้านการบริโภคเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เเละบุหรี่ พบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เเละ6.1 ตามลำดับ จึงต้องมีการบังคับใช้มาตราการด้านภาษีเเละราคาเพื่อลดการบริโภค อาทิ การห้ามโฆษณา ห้ามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือลดช่องทางการจัดจำหน่าย // ด้านยาเสพติด คดียาเสพติดเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2559 เเนวนโยบายของรัฐจึงต้องมุ่งการป้องกันเพื่อลดปัญหาสังคม ปราบปรามกลุ่มมีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามเเละยาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันเรื่องอุบัติเหตุลดลง เเต่ยังต้องสร้างความตระหนักเรื่องความเสี่ยงเเละความร้ายเเรงของอุบัติเหตุเพื่อการปรับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัยมากขึ้น เเละอีกสิ่งสำคัญคือการตระหนักเรื่องการดูเเลผู้สูงอายุ  จึงได้มีการนำเสนอบทความ “ระบบการดูเเลผู้สูงอายุระยะยาวในประเทศไทย” ระบุว่าในปี 2560 ผู้สูงอายุมีสัดส่วนร้อยละ 17 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะมีผู้สูงอายุประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรในปี 2583 ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มผู้สูงอายุวัยกลางคนและวัยปลายถึงร้อยละ 56.3 ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ประชากรกลุ่มนี้อยู่ในภาวะพึ่งพิงและต้องการบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมพัฒนาการจัดบริการดูแลผู้สูงอายุในระยะยาว อาทิ การสนับสนุนและพัฒนาการดำเนินงานที่มีในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพ ,การกำหนดมาตรฐานการดูแลตามระดับที่มีคุณภาพมาตรฐาน ,การสนับสนุนการจัดบริการดูแลระยะกลาง , ควรส่งเสริมนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้มีสุขภาวะที่ดี มีคุณภาพเเละไม่มีโรคเรื้อรัง ขณะที่ชุมชนควรสร้างพื้นที่ให้เหมาะสมกับการดูเเลผู้สูงอายุด้วย เเละเสนอเเนะให้มีการผลักดันกฎหมายและสร้างเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในทุกหน่วยงานไปในแนวทางเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”