ยะลา 13 ต.ค.-เขื่อนบางลาง จ.ยะลา วิกฤติหนัก ระดับน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือน้ำใช้ได้อีกเพียงร้อยละ 9 เท่านั้น หากฝนไม่ตกหรือไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มเติมภายใน 2 เดือนนี้ อาจส่งผลกระทบให้ประชาชนใน จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
นับตั้งแต่สร้างเขื่อนบางลางตั้งแต่ปี 2524 ผ่านมากว่า 35 ปี ปีนี้เป็นปีแรกที่ระดับน้ำในเขื่อนบางลางลดลงต่ำสุดอย่างวิกฤติ เนื่องจากภัยแล้งส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยกว่าที่คาดการณ์
ระดับน้ำที่ลดลงต่ำสุดจนเผยให้เห็นบางส่วนของพื้นอ่างเก็บน้ำ แห้งแล้งแตกระแหง สะท้อนให้เห็นถึงความแล้งจัดของภาคใต้ในปีนี้ ระดับน้ำในเขื่อนบางลางลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่สร้างเขื่อนมา 35 ปี ระดับน้ำอยู่ที่ 87.94 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังคงเหลือน้ำไว้ใช้อีกร้อยละ 9 หรือปริมาณ 110.6 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จำเป็นต้องระบายน้ำออกทุกวัน วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ในการชลประทาน รักษาระบบนิเวศ และเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนใน จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี
นายนิมูหะมัดนูรดิน แว ผู้ช่วยหัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง เปิดเผยข้อมูลระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงเดือนมกราคมระดับน้ำลดลงต่ำกว่าเส้นมาตรฐาน และตั้งแต่เดือนเมษายนไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเลย แต่จำเป็นต้องระบายน้ำออกทุกวัน จึงได้พยายามแก้ปัญหาโดยการทำฝนเทียม คาดว่าจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนให้สูงขึ้น แต่ฝนกลับตกท้ายเขื่อน จึงไม่สามารถช่วยให้ปริมาณน้ำในเขื่อนสูงขึ้นได้ และหากฝนไม่ตกภายใน 2 เดือนนี้ หรือไม่มีน้ำเข้าเขื่อนเลย อาจจะส่งผลกระทบให้ประชาชนใน จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค
ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว จึงคาดการณ์ว่าน่าจะมีปริมาณน้ำเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 แต่หากปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจจะส่งผลให้ปีหน้าจะวิกฤติหนักมากกว่านี้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันประหยัดน้ำในวันนี้ เพื่อให้มีน้ำใช้ในปีถัดไปด้วย.-สำนักข่าวไทย