แรงงานเมียนมายังไม่พิสูจน์สัญชาติกว่า 5 แสนคน

กทม.20 พ.ย.-อธิบดีกรมการจัดหางาน  เผยเหลือแรงงานเมียนมา กว่า 5 แสนคน ยังไม่พิสูจน์สัญชาติ  จี้นายจ้างเร่งดำเนินการ 


 

นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า วานนี้(19 พ.ย.) ตนพร้อมด้วยนายอู วิน เชน อธิบดีกรมแรงงาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บริการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจ.นนทบุรี ที่ศูนย์การค้าเดอะสแควร์ บางใหญ่ พบการทำงานเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว มีรถโมบายเคลื่อนที่มาเสริมให้บริการตรวจสัญชาติให้กับแรงงานเมียนมา แบบเบ็ดเสร็จ  (One stop Service)  มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาตรวจลงตราวีซ่า สาธารณสุขตรวจสุขภาพ ทำประกันสุขภาพ  และกรมการจัดหางานออกใบอนุญาตทำงาน 


นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ศูนย์บริการแห่งนี้สามารถให้บริการแรงงานเมียนมาได้ถึง 500 คนต่อวันเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสัญชาติ แต่ที่ผ่านมาวันที่ 15-18 พ.ย.2560 ยังมีแรงงานเมียนมามาใช้บริการเป็นจำนวนน้อย เพียง 215 คน จึงสั่งการให้จัดหางานจังหวัดประสานนายจ้าง ลูกจ้าง ซึ่งกรมการจัดหางานมีข้อมูลที่อยู่ทั้งหมดให้รีบมาขึ้นทะเบียนให้เสร็จสิ้น  โดยทางการเมียนมานำรถโมบายมาให้บริการตรวจสัญชาติ ภายในรถมีเครื่องมือจำนวน 2 ชุด ซึ่งในระยะแรกจะเร่งให้บริการกับแรงงานเมียนมากลุ่มที่ผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง (ใบจับคู่) ซึ่งใกล้จะครบกำหนดการอนุญาต และจะขยายการให้บริการกับแรงงานในกลุ่มบัตรสีชมพูต่อไป


นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ทางการเมียนมาได้เพิ่มจุดให้บริการพิสูจน์สัญชาติแรงงานจำนวน 2 แห่ง คือที่ ศูนย์การค้าเดอะสแควร์ บางใหญ่ เลขที่ 99 ม.12 ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และที่ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ถ.พหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งแต่เดิมมี 9 ศูนย์คือที่จังหวัดสมุทรสาคร 2 แห่ง สมุทรปราการ เชียงราย ตาก ระนอง เชียงใหม่ นครสวรรค์ และสงขลา

อย่างไรก็ตามขณะนี้พิสูจน์สัญชาติแรงงานเมียนมาไปแล้วทั้งสิ้น 623,794 คน คงเหลือแรงงานเมียนมาที่ต้องพิสูจน์สัญชาติอีก 529,635 คน เป็นกลุ่มบัตรสีชมพู 342,261 คน กลุ่มใบจับคู่ จำนวน 187,374 คน จึงขอให้นายจ้างเร่งพาลูกจ้างต่างด้าวมาพิสูจน์สัญชาติและขออนุญาตทำงานก่อนสิ้นสุดเวลาผ่อนผัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง