“ไทด์” แจ้งความเงินบริจาค “กิตติ ดัสกร” ถูกถอนจากบัญชี 8 หมื่นบาท

นนทบุรี 10 พ.ย.-“ไทด์” โร่แจ้งความปมเงินช่วยเหลือดาวร้ายชื่อดัง “กิตติ ดัสกร” หายไปจากบัญชี 80,000 บาท ด้านอดีตเมียรับเป็นคนกดเงินออกไปใช้หนี้และใช้จ่ายบางส่วนจริง


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 พ.ย.60 ที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายเอกพันธุ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พันธ์พัฒน์ เศษบุบผา ร้อยเวร สภ.ไทรน้อย หลังจากตรวจสอบบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเมืองปทุมธานี ชื่อบัญชีนายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง ได้มีบุคคลถอนเงินออกจากบัญชี จำนวน 80,000 บาท โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการนำเงินออกไปใช้ เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ประชาชนบริจาคให้นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง ซึ่งมีอาการป่วย จากการสอบสวนนางสาวประสิประภา อายุ 28 ปี อดีตภรรยา ยืนยันว่าเป็นคนเบิกเงินไปจริง เอาไปให้ผู้ชายคนหนึ่งเพื่อใช้หนี้ที่เคยโอนเงินมาให้ตน เป็นเพื่อนตนไม่สามารถระบุชื่อได้เนื่องจากเกรงว่าเขาจะเดือดร้อน ส่วนเงินตรงนี้ตนจะหามาผ่อนคืนให้เดือนละ 5,000-10,000 บาท โดยจะไปทำงานที่หัวหิน ส่วนเงินที่เอาไปเป็นค่าเล่าเรียนลูกและค่าใช้จ่ายประจำวัน ตนยอมรับผิดคนเดียวหากจะดำเนินคดี


ด้านไทด์ กล่าวว่า เงินในบัญชีถูกเบิกออกไปครั้งละ 20,000 บาทจำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 80,000 บาท แต่อดีตภรรยา บอกว่านายกิตติ อนุญาติให้เบิกออกไปลงทุน และมีการอ้างว่ามีผู้ชายที่หลงรักโอนเงินมาให้ แต่จากการตรวจสอบไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามา มีแต่เงินที่ประชาชนโอนมาเพื่อช่วยเหลือนายกิตติเป็นค่ารักษาอาการป่วยเท่านั้น ทางตนจึงคิดว่าเงินจำนวนนี้อนาคตข้างหน้าอาจถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคและอาจทำให้นายกิตติไม่ได้รักษาตัว จึงได้แจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้นางสาวประสิประภา นำเงินกลับมาคืนเหมือนเดิม และเงินในส่วนที่บริจาคนี้จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลนายกิตติเป็นผู้ดูแลบัญชีต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เนื่องจากต้องรอสอบปากคำ นายกิตติ เจ้าของบัญชีก่อนว่ายินยอมหรือไม่ เนื่องจากทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและมีบุตรด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ต้องอยู่กับผู้เสียหายว่าจะประสงค์ดำเนินคดีหรือไม่


ก่อนหน้านี้นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางไปเยี่ยม นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง พร้อมกับเปิดเผยว่าเบื้องต้นอาการดีขึ้นตามลำดับ ล่าสุดหลังจากที่ ได้พูดคุยกับ นายกิตติ ได้ทำกายภาพบำบัดแล้ว อาการตอนนี้เริ่มดีขึ้นใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีเจ้าหน้าที่ รพ.ไทรน้อย ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และวันที่ 13 พ.ย.นี้ จะพาไปรักษาตาที่โรงพยาบาล หู ตา คอ จมูก ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทาง ย่านตลิ่งชัน โดยให้ทางโรงพยาบาลจัดทีมแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ส่วนค่าใช้จ่ายทางมูลนิธิร่วมกตัญญูจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง