ลงดาบข้าราชการลวนลามลูกจ้างสาวสาธารณสุข

สธ.10 พ.ย.-ผลสอบวินัยร้ายแรง ข้าราชการ ลวนลามลูกจ้างสาวสาธารณสุข พบมีความผิดจริง ส่งเรื่องเสนอ ปลดออกหรือ ไล่ออก มีสิทธิ์ ชวดเบี้ยหวัดบำนาญ ด้านลูกจ้างสาวที่ถูกลวนลาม กล่าวขอบคุณที่ได้รับความยุติธรรม 


นพ.พิศิษฎ์ ศรีประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 5 ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง  กรณีลวนลามลูกจ้างสาวกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวสรุปผลการสอบสวน  ว่า  หลังจากใช้ระยะเวลาสอบสวน 70 วัน ทั้งการสอบพยาน 7 ปากและเอกสารที่ผู้ถูกกล่าวหา (นายอัศม์เดช) นำมาชี้แจง  เนื่องจากเจ้าตัวไม่สะดวกในการเดินทางมาให้ข้อมูลถึง 3 ครั้ง โดยผลการสอบพบ ว่า ผู้กล่าวหานั้น มีความผิดจริง จึงส่งเรื่องผลการสอบให้กับนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับทราบต่อไป เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม (คกพ.) กระทรวงสาธารณสุข และเสนอไปยังกพ.ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน ซึ่งในระหว่าง ผู้ถูกกล่าวว่า ยังสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ จนกว่า ปลัดกระทรวงสาธารรณสุข จะลงนามตัดสิน


นพ.พิศิษฎ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการลงโทษ ตามระเบียบผิดวินัยร้ายแรงข้าราชการ มีโทษ ตั้งแต่ 1.ไล่ออก มีผลให้ไม่ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญ 2.ปลดออก ยังสามารถคงรับเบี้ยหวัดบำนาญได้อยู่  อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมาย หากผู้ถูกกล่าวหาคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ และสามารถดำเนินการฟ้องศาลปกครองได้เช่นกัน


ส่วนผลสอบวินัยไม่ร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหา ฐานละเว้นเพิกเฉยปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความเป็นธรรมของลูกจ้างนั้น  เนื่องจากสอบเพียงไม่นาน ทางผู้บังคับบัญชารายนี้ได้แสดงเจตจำนงขอลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ผลการสอบยุติไปก่อนหน้านี้ โดยผลการลาออกมีผล 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา  

อย่างไรก็ตามสำหรับการสอบวินัยร้ายแรงข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ ถือว่ามีความรวดเร็วกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้ ที่ 120 วัน แต่สามารถสอบได้เสร็จก่อนกำหนด ใช้เวลาแค่ 70 วัน

ด้านลูกจ้างสาวที่ถูกลวนลาม กล่าวว่า ดีใจ ที่ได้รับความยุติธรรม เพราะรอผลกันมานานมากแล้ว ขอบคุณคณะกรรมการฯ รมว.สาธารณสุข ปลัดกระทรวง ที่ให้ความยุติธรรมกับพวกตน ไม่ทอดทิ้ง พวกเราเป็นแค่เสียงเล็กๆ ของผู้หญิงที่ถูกเอาเปรียบ มันไม่ใช่แค่การลวนลามแต่มันเป็นเหมือนการหยามศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ดีใจมาก โล่งใจมาก ทุกคนจะได้รู้ว่าความจริงถึงอย่างไรก็เป็นความจริง..-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน