พระนครศรีอยุธยา 10 พ.ย.- รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่อยุธยาติดตามอุบัติเหตุรถตู้เสียชีวิต 5 ราย ชี้ไม่พบร่องรอยการเบรก และเป็นรถจดทะเบียนถูกต้อง สันนิษฐานไว้ก่อนขับประมาท-หลับใน พร้อมรอตำรวจสรุปสำนวนคดี
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และนายมานิตย์ ศรีทอง ทนายความจากบริษัทรถตู้ เพื่อหารือกรณีอุบัติเหตุรถตู้บริการนักท่องเที่ยวชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อบนถนนสาย 347 เขตบางปะอิน เมื่อเย็นวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เสียชีวิต 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 4 ราย และไกด์ชาวไทย 1 ราย ส่วนคนขับอาการสาหัสอยู่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จากนั้นนายกมล และผู้เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบสภาพรถตู้ที่เคลื่อนย้ายมาไว้ด้านหลังโรงพัก
นายกมล กล่าวว่า รถตู้คันนี้เป็นรถสภาพใหม่ใช้งานมาประมาณ 5 ปี อุปกรณ์ต่าง ๆ ติดตั้งครบตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งมีการทำประกันภัยและจดทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ผลตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการเบรกของรถตู้ และจากการตรวจสอบอุปกรณ์จีพีเอสพบว่ามีการเร่งเครื่องยนต์ไปที่ 93 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากนั้นอีก 5 นาทีเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่า รถยนต์ประเภทนี้ต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร / ชั่วโมง แสดงว่าใช้ความเร็วสูงเกินกำหนด เมื่อไม่มีร่องรอยของเบรก สันนิษฐานได้ 2 ประเด็น คือ ขับรถโดยประมาท หรือหลับใน ซึ่งผลทางคดีอย่างเป็นทางการ คงต้องรอพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสรุปสำนวน
พ.ต.อ.สง่า กล่าวว่า คนขับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บพอให้การกับตำรวจได้แล้ว เบื้องต้นยอมรับว่าหลับใน ซึ่งมีความสอดคล้องกับข้อมูลจีพีเอสของกรมการขนส่งทางบกที่ระบุว่ารถตู้เร่งเครื่องไปที่ 93 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอีก 5 นาทีต่อมาเกิดอุบัติเหตุ
ด้านนายมานิตย์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะรับผิดชอบความเสียหายตามกฎหมายและรถได้ทำประกันไว้ รวมถึงผู้โดยสารและการเยียวยาผู้ประสบอุบัติเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งบริษัทฯ เองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย