กรุงเทพฯ 6 พ.ย.- รักษาราชการแทน ผู้บังคับการนิติเวชวิทยา เผยผลชันสูตรศพสาวใช้ขาวเมียนมา ใช้อาวุธปืนยิงจากซ้ายไปขวาเพียง 1 นัด แต่ยังไม่ยืนยันเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม ต้องรอหลักฐานจากพนักงานสอบสวนประกอบอีกครั้ง
นางปาละ ปาเปียว แม่ของนางสาวหวาน ปาเปียว อายุ 17 ปี สาวใช้ชาวเมียนมา พร้อมด้วย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าพบ พันตำรวจเอกภวัต ประทีปวิศรุต รักษาราชการแทน ผู้บังคับการนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับฟังผลการชันสูตรพลิกศพ หลังญาติขุดศพของนางสาวหวาน มาให้สถาบันนิติเวชวิทยา ตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เพราะยังติดใจสาเหตุในการเสียชีวิต เนื่องจากครอบครัว เชื่อว่านางสาวหวาน ปาเปียว ถูกฆาตกรรม หลังถูกพบว่าเสียชีวิตจากการใช้ปืนของนายจ้างตัวยิงตัวตาย ในบ้านพักที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา
พันตำรวจเอกภวัต เปิดเผยผลการชันสูตรศพนางสาวหวาน ว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงจากซ้ายไปขวาเพียง 1 นัด แต่พนักงานสอบสวน ตรวจพบปลอกกระสุน 2 ปลอก และลูกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด ซึ่งแพทย์ได้ตัดชิ้นเนื้อข้างรูกระสุนไปตรวจสอบหาเขม่าดินปืน คาดว่าจะทราบผลใน 2 สัปดาห์ แต่แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นการกระทำจากตัวเอง หรือมีผู้อื่นกระทำ เนื่องจาก สภาพศพเน่าเปื่อย และของเหลวภายในร่างกายแห้งไปแล้ว จึงยากต่อการพิสูจน์ แต่การตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยบาดแผลอื่น มีเพียงรอยกระสุน ส่วนข้อสงสัยว่า ผู้เสียชีวิตยิงตัวเองถึง 2 นัดนั้น ก็มีความเป็นไปได้ เพราะในอดีตเคยมีผู้ยิงตัวเองถึง 5 นัด เพราะไม่ถูกจุดตาย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบระยะการยิง คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะทราบผล ขณะเดียวกัน แพทย์ได้มีการตรวจสอบร่องการถูกกระทำชำเรา แต่ยังรอผลการตรวจสอบเช่นกัน
พันตำรวจเอกภวัต ยืนยันด้วยว่า การชันสูตรศพ เป็นไปตามหลักสากล ไม่เลือกปฏิบัติชนชาติหรือศาสนา แต่ผลอย่างเป็นทางการ ต้องอาศัยผลการตรวจหลักฐานจากพนักงานสอบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน ประกอบกันด้วย -สำนักข่าวไทย