ผลชันสูตรเศรษฐินีวัย 77 ปี ถูกฆาตกรรม

จันทบุรี 23 ม.ค. – ผลชันสูตรศพเศรษฐินีวัย 77 ปี พบถูกทำร้าย เนื่องจากกระดูกชายโครงหักทั้งสองข้าง หลังญาติเจอศพในสระน้ำกลางสวนผลไม้ และติดใจการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ อีกทั้งกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ในบ้านหายไป


หลังจากเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ตำรวจสืบสวนภูธรจันทบุรีเข้าตรวจสอบสภาพศพ น.ส.ปนิฐิ โกศลานันท์ อายุ 77 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในสระน้ำกลางสวนผลไม้ หลังปั๊มน้ำมันเก่า พื้นที่หมู่ 2 ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมชันสูตรศพผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพบวมอืด คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3-4 วัน

เบื้องต้นญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ควบคุมภายในบ้านหายไป จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เก็บพิสูจน์หลักฐาน วัตถุพยานอย่างละเอียด ตลอดจนนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี เพื่อให้แพทย์นิติเวชชันสูตรหาสาเหตุ


ล่าสุดผลชันสูตรพบว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้าย กระดูกชายโครงหักทั้งสองข้าง ส่วนบาดแผลอื่นๆ ไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย จึงพุ่งเป้ามาจากการถูกฆาตกรรม เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดประดาน้ำได้ลงพื้นที่ดำค้นหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาอาวุธที่คาดว่าใช้ในการก่อเหตุภายในสระน้ำที่พบศพ แต่เบื้องต้นทีมชุดประดาน้ำยังกระจายกำลังปูพรมค้นหาทั่วทั้งบริเวณสระ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือวัตถุต้องสงสัยใดๆ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะนำแยกย้ายไปทิ้ง

ส่วนสาเหตุที่ถูกกระทำให้เสียชีวิตน่าจะเกิดจากเรื่องส่วนตัว หรือเป็นบุคคลที่รู้จักและสนิทกับผู้ตายเป็นอย่างดี ทั้งนี้ เนื่องจากสามารถเข้านอกออกในบ้านที่เกิดเหตุได้ โดยทรัพย์สินไม่ถูกเคลื่อนย้าย มีเพียงกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ควบคุมหายไป

ทั้งนี้ ตำรวจไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งไป ทั้งเรื่องของแรงงานที่เคยทำงานอยู่กับผู้ตาย หรือประเด็นอื่นๆ จากการสอบสวนนางลัชชา อายุ 73 ปี น้องสาวแท้ๆ ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปัจจุบันพี่สาวพักอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เนื่องจากยังไม่มีครอบครัว ก่อนหน้านี้ 3-4 วัน มีพี่น้องจากกรุงเทพฯ โทรมาบอกว่าให้ช่วยมาดูพี่สาวที่บ้าน เนื่องจากติดต่อไม่ได้ แต่เนื่องจากตนเองอยู่ต่างอำเภอ จึงวานให้เพื่อนของพี่สาวซึ่งอยู่ใกล้กันช่วยมาดูให้แต่ไม่พบ กระทั่งแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากประตูรั้วถูกล็อก จนตำรวจต้องปีนกำแพงเข้าไปแต่ไม่เจอ กระทั่งมาเจอร่างในสระน้ำ


ครอบครัวสกุลโกศลานันท์ เป็นตระกูลใหญ่เก่าแก่ใน จ.จันทบุรี เคยตกเป็นข่าวปมพิพาทมรดกที่ดินจนถึงขั้นมีการใช้ปืนยิงกันหน้าบัลลังก์ บนศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย เมื่อปี 2562 คดีข้อพิพาทมรดกที่ดินมีการฟ้องร้องกันหลายคดีทั้งแพ่งและอาญา ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี ข้อพิพาทที่ดิน 3,800 ไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พื้นที่บ้านตาเลียว ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

ทุจริตยาโรงพยาบาล

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย