บุรีรัมย์ 1 พ.ย.-ชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจหลอกนักเรียนหญิง ม.4 ซ้อนท้ายจักรยานยนต์อ้างให้เป็นสายล่อซื้อยา แต่พาเข้าป่าอ้อย เพื่อนเห็นผิดปกติโทรแจ้ง ตร.ไล่ล่าวุ่น
(1 พ.ย.60) ศูนย์รับแจ้งเหตุสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนักเรียนหญิงคนหนึ่งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีชายฉกรรจ์อายุประมาณ 35-40 ปี แต่งกายคล้ายตำรวจ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาหลอกล่อให้กลุ่มนักเรียนหญิงซึ่งนั่งกันอยู่ 4 คน บริเวณคลองละลมโบราณในเขตเทศบาลเมือง ช่วยไปเป็นสายล่อซื้อยาเสพติด พร้อมบอกจะให้เงินเป็นค่าจ้าง 1,000 บาท ซึ่ง น.ส.บี และ น.ส. ซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเรียนอยู่ ชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลงเชื่อก็ขับรถจักรยานยนต์ตามชายคนดังกล่าวไป
แต่พอไปถึงบ้านตามั๊ว ต.ชุมเห็ด ชายคนที่อ้างเป็นตำรวจได้ออกอุบายให้ น.ส.บี หนึ่งในนักเรียนที่หลงเชื่อขับรถจักรยานยนต์ตามไป ไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตนเอง โดยอ้างว่าใกล้ถึงจุดหมายที่จะทำการล่อซื้อแล้ว เมื่อ น.ส.บี หลงเชื่อไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ด้วย ก็บอกให้ น.ส.ซี เพื่อนนักเรียนอีกคนขับรถนำหน้า ก่อนจะอาศัยช่วงเผลอขับเลี้ยวหายไป ซึ่ง น.ส.ซี เพื่อนนักเรียนที่ไปด้วยกันพยายามขับรถตามหาแต่ก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจขับกลับมาหาเพื่อนยังจุดเดิม แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง ด้วยความเป็นห่วงจึงได้โทรศัพท์ติดต่อหา น.ส.บี ซึ่งก็ติดต่อได้แต่ไม่มีการรับสาย จึงพยายามโทรอีกหลายครั้ง น.ส.บี จึงรับสาย และได้ยินเสียงร้องไห้เหมือนกับหวาดกลัว พร้อมบอกกับเพื่อนว่าถูกชายคนดังกล่าวใช้มีดจี้ไว้อยู่บริเวณป่าอ้อยใกล้และบอกห้ามพูดอะไร ก่อนจะวางสาย เพื่อนเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมือง ให้ช่วยเหลือ น.ส.บี
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมือง ก็ได้กระจายกำลังออกติดตามค้นหานักเรียนหญิง ที่ถูกชายฉกรรจ์ หลอกพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หายไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้นานกว่า 2 ชั่วโมงแต่ก็ไร้วี่แวว กระทั่งต่อมาได้รับแจ้งจากเพื่อนนักเรียนหญิงกลุ่มดังกล่าวว่าชายที่อ้างเป็นตำรวจได้ขับรถกลับมาส่ง น.ส.บี ที่บริเวณคลองละลมแล้ว โดยไม่ได้รับอันตรายถูกกระทำอนาจารแต่อย่างใด ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขับรถหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ น.ส.บี ไปที่ สภ.เมือง เพื่อสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่สอบถามแล้ว ก็แจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดและ น.ส.บี ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเพราะไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพียงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ส่วนกรณีที่ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย