ภูมิภาค 1 พ.ย.- ตำรวจภาค 1-ทอ.สุวรรณภูมิขอความร่วมมือช่วงลอยกระทงปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยโคมลอยในพื้นที่รอบสนามบินรัศมี 8 กม. ฝ่าฝืนมีความผิดทางกฎหมาย ส่วนอุบลฯ กำชับชุมชนรอบบริเวณสนามบินงดปล่อยโคมลอยเช่นกัน
พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ1) และตัวแทนอีกหลายฝ่าย แถลงที่ห้องประชุม อาคาร AOB ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ (1 พ.ย.) เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดกับอากาศยานในช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2560 โดยขอความร่วมมือไม่ปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง พลุไฟ และการยิงลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงเทศกาลลอยกระทง ภายในรัศมี 8 กม. โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายกับอากาศยาน ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น ทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงกวดขันไม่ให้มีการยิงปืนขึ้นฟ้า
พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ซึ่งมีโทษสูงถึงประหารชีวิต และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 229, 232 และตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและดอกไม้เพลิง พ.ศ.2490 และยังมีความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 27/2559 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ โคมลอย โคมควัน และวัตถุอื่นๆ ห้ามมิให้ผู้ใดจุดหรือปล่อยบั้งไฟ โคมลอย โคมควัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตสำหรับกรุงเทพมหานครและนายอำเภอสำหรับจังหวัด
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเที่ยวบินในช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย.2560 รวม 5 วัน ประมาณ 4,750 เที่ยวบิน และยังจัดทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบทางวิ่งทางขับเพื่อไม่ให้มีวัสดุแปลกปลอมบนทางวิ่งทางขับอันเป็นอันตรายต่ออากาศยานโดยจะเฝ้าระวังเป็นพิเศษบริเวณแนวขึ้น-ลงของเครื่องบินไทย
ด้านนายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดได้ประชาสัมพันธ์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่บริเวณเส้นทางการบินและรอบบริเวณสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี รัศมีไม่น้อยกว่า 20 กิโลเมตร เพื่อขอความร่วมมืองดปล่อยโคมลอย จุดพลุ หรือโคมควัน (บั้งไฟ)ในช่วงตั้งแต่ 05.00-22.00 น. ของทุกวัน เพราะช่วงเวลาดังกล่าว มีเครื่องบินโดยสารทำการบินขึ้นลงรับส่งผู้โดยสารทั้งไปและกลับวันละ 34 เที่ยวบิน เพราะการโคมลอยอาจกระทบต่อเครื่องบินโดยสาร ซึ่งผู้ปล่อยโคมลอยสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นจะมีความผิดทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง.-สำนักข่าวไทย