นนทบุรีมั่นใจรับมือสถานการณ์น้ำ-พื้นที่นอกคันกั้นกระทบต่อเนื่อง

นนทบุรี 31 ต.ค.-รัฐบาลเตรียมแผนเริ่มระบายน้ำออกจากทุ่งรับน้ำลุ่มเจ้าพระยา วันพรุ่งนี้ ขณะที่จังหวัดปลายน้ำอย่างนนทบุรี ชุมชนนอกคันกั้นน้ำยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงน้ำทะเลหนุนสูง



ระหว่างที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานคลี่คลายจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ยังมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากภาคเหนือไหลบ่าลงมาตกค้างอยู่ในพื้นที่ภาคกลางอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ยังคงต้องเร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยให้หมด เพราะหากมีฝนตกลงมาเพิ่ม จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักกว่าเดิม


แม้มวลน้ำเหนือจะลงมาถึง จ.นนทบุรี แล้วเป็นสัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ชั้นใน พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบยังคงเป็นชุมชนนอกพื้นที่คันกั้นน้ำสองฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา

อย่างที่ชุมชนมัสยิดท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด ซึ่งตั้งอยู่นอกพื้นที่คันกั้นน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง พวกเขาบอกว่า ปีนี้หนักกว่าปีที่แล้ว เพราะน้ำเข้าท่วมบ้านสูงเกือบ 50 เซนติเมตร และระบายลงช้า ต้องยกทรัพย์สินไว้ที่สูง เดินทางลำบาก อีกทั้งยังถูกคลื่นซัดกระดานพื้นบ้านได้รับความเสียหาย


นอกจากนี้ ยังมีชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกกว่า 30 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน เช่น ที่ อ.บางบัวทอง ปากเกร็ด บางใหญ่ และบางกรวย ส่วนในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรีและเทศบาลนครปากเกร็ดมีคันกั้นน้ำ ป้องกันน้ำท่วมได้ 95% ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีบอกว่า น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำเป็นวิถีที่เกิดขึ้นช่วงฤดูฝนทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำเหนือมามาก จึงระบายได้ช้า พร้อมยืนยันแม้ปริมาณน้ำฝนปีนี้จะมากเท่าปี 54 แต่ก็ไม่น่ากังวล เพราะมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี

ขณะที่ทางการเตรียมแผนเริ่มการระบายน้ำออกจากทุ่งรับน้ำเจ้าพระยาตอนบนที่ทุ่งบางระกำ ซึ่งรับน้ำอยู่ 500 ล้านลูกบาศเมตร ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ พื้นที่ลุ่มพระยาตอนล่างฝั่งตะวันออกรับน้ำ 437 ล้านลูกบาศเมตร อยู่ในทุ่งเชียงราก ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งฝั่งซ้าย คลองชัยนาท-ป่าสัก ทุ่งบางกุ่ม และทุ่งบางกุ้ง จะเริ่มจะระบายน้ำให้วันที่ 21 พฤศจิกายน

ส่วนพื้นที่ลุ่มพระยาตอนล่างฝั่งตะวันตกรับน้ำอยู่ 1,077 ล้านลูกบาศเมตร ในทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด และโครงการโพธิ์พระยา จะเริ่มระบายให้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ โดยการระบายน้ำออกจากโครงการโพธิ์พระยา ทุ่งรับน้ำจุดสุดท้ายจะแล้วเสร็จในวันที่ 4 มกราคมปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง