อุบลราชธานี 30 ต.ค.-สนามบินอุบลฯ วุ่น ผู้โดยสารกว่า 1,500 คน รอขึ้นเครื่อง เหตุสภาพอากาศแปรปรวน ผอ.การท่าเผยนักบินประเมินสภาพอากาศ อันตรายเกินกว่าจะเอาเครื่องลง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี เต็มไปด้วยผู้โดยสารกว่า 1,5000 คน ที่ตกค้างรอขึ้นเครื่องบินเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 11.15 น. (30 ต.ค.) จนถึงเวลา 16.00 น. จำนวน 6 เที่ยวบิน โดยแต่ละสายการบินแจ้งสาเหตุล่าช้าเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้เครื่องบินที่มาจากสนามบินดอนเมืองไม่สามารถลงจอดได้
สอบถามนายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ข่าวอากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งว่า ในวันนี้มีลมกระโชกแรงบริเวณหัวทางวิ่งทำให้เครื่องบินที่จะทำการบินลงที่สนามบินอุบลราชธานี ไม่สามารถทำได้ จึงได้ตัดสินใจนำเครื่องบินไปลงที่สนามบินอื่น อาทิ สนามบินขอนแก่น สนามบินร้อยเอ็ด บางลำได้บินกลับไปที่สนามบินต้นทาง เนื่องจากความเร็วลมที่สนามบินอุบลราชธานีเกินกว่า 20 น็อต ซึ่งเกินมาตรฐานการบินจะต้องมีความเร็วลมไม่ 12 -13 น็อต ดังนั้นการที่มีความเร็วลมสูงกว่าที่เครื่องจะรับได้จึงเสี่ยงต่อความปลอดภัย กัปตันมีสิทธิที่จะนำเครื่องไปลงที่สนามบินสำรองหรือกลับไปยังต้นทางได้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบนั้นมีทั้งหมด 6 สายการบิน เริ่มตั้งแต่เวลา 11.15 น. สายการบินไลอ่อนแอร์ /12.15 สายการบินนกแอร์ / เวลา 12.20 น.สายกานบินไทยสมาย / เวลา 14.00 น. สายการบินไลอ่อนแอร์ / 14.25 น.สายการบินนกแอร์ และ 14.40 น. สายการบินแอร์เอเชีย และยังมีอีก 2 เที่ยวบินของนกแอร์ที่จะออกจากสนามบินอุบลทางสายการบินได้จัดรถบัสไปส่งที่สนามบินร้อยเอ็ด ซึ่งห่างจากสนามบินอุบลราชธานี 180 กิโลเมตร
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ต.ค-5 พ.ย.60 จะมีอากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4องศาเซลเซียส เว้นแต่วันที่ 5 พ.ย.นี้ จะมีฝนเกิดขึ้นเล็กน้อยบางพื้นที่ ความเร็วลมตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 15-30 กิโลเมตร/ต่อชั่วโมง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินของสายนกแอร์สามารถลงจอดที่สนามบินอุบลราชธานี ได้ในเวลา 16.50 น. และกลับขึ้นบินไปยังสนามบินดอนเมือง ในเวลา 17.40 น.-สำนักข่าวไทย