กรุงเทพฯ 24 ต.ค.- ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมการผลักดันน้ำของกองทัพเรือในแม่น้ำท่าจีน หลังฝนตกหนักส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายพื้นที่
พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการผลักดันน้ำของกองทัพเรือในแม่น้ำท่าจีน และในพื้นที่ต่าง ๆ ของจ.สมุทรสาคร หลังเกิดฝนตกหนักส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน มีระดับเพิ่มมากขึ้นและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในหลายพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2560 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดย อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ได้จัดส่งขบวนรถลำเลียงเรือผลักดันน้ำ จำนวน 22 ลำ พร้อมกำลังพล 80 นาย เดินทางไปยังจ.สมุทรสาคร ในการติดตั้งเรือผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน 15 ลำ และบริเวณวัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม 7 ลำ เพื่อดำเนินการผลักดันน้ำจากในแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างให้ระบายลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สำหรับในวันนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สนับสนุนเรือผลักดันน้ำเพิ่มเติม ในพื้นที่ต่าง ๆ ของจ.สมุทรสาคร ตามที่ได้รับการประสานงานจากกรมชลประทานอีก 33 ลำ ประกอบด้วย สะพานอ่างทอง สะพานพุทธมณฑลสายสอง สะพานบางยาง โดยจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ
สำหรับ เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือนั้น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำหลากมาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งแนวความคิดนี้ ปัจจุบันกรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศ และจากองค์ความรู้ ในการสร้างเรือผลักดันน้ำ ที่คงมีอยู่ทำให้ กองทัพเรือสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่เพื่อให้ทันต่อการนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ในปี 2554 ทั้งยังสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์ เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่เป็น 3 ขนาด คือขนาด 320 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด 220 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และขนาด 120 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เรือผลักดันน้ำนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึงและคอขวด เนื่องจากเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลได้ไม่เร็ว
นอกจากบริเวณแม่น้ำท่าจีนที่ ผบ.ทร.ได้เดินทางไปตรวจในวันนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ กองทัพเรือ ได้ส่งเรือผลักดันน้ำ 12 ลำ ให้การสนับสนุนสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร บริเวณคลองลาดพร้าวซอยลาดพร้าว 56 อุโมงค์พระราม 9 และคลองสามเสน บริเวณอุโมงค์บึงมักกะสัน และล่าสุด ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้จัดเรือหลวงมารวิชัย สนับสนุนการผลักดันน้ำร่วมกับเรือผลักดันน้ำอีก 7 ลำ บริเวณคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ให้ทุกหน่วยอยู่เคียงข้างประชาชนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง //235 ใช้ภาพในคลิปข่าวด่วน.-สำนักข่าวไทย