กรุงเทพฯ 18 ต.ค.-พสกนิกรจำนวนมากยังคงหลั่งไหลถวายสักการะแสดงความอาลัย เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และ น้อมนำแนวพระราชดำริเป็นหลักดำเนินชีวิต
บรรยากาศที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้ประชาชนที่ต้องการเข้าถวายสักการะ แสดงความอาลัย เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทุกคนยังคงยืนเข้าเเถวเพื่อรอการเรียกเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง โดยทหารคอยบริการฉีดน้ำจากฟ็อกกี้เพื่อคลายความร้อนของอากาศ บางส่วนเตรียมแอมโมเนียให้ประชาชน ส่วนใหญ่ต่างเตรียมแว่นกันแดด หมวก ร่ม และยาดมไว้พร้อม
นายสันก์ เที่ยงดี อายุ 77 ปี ชาวกรุงเทพฯ เดินทางมาพร้อมกับภรรยา นางวาลีรัตน์ เที่ยงดี กล่าาว่า ตั้งใจจะมาให้ได้ แม่ตอนนี้ภรรยาจะป่วย ซึ่งปกติจะเดินหรือยืนเป็นเวลานานไม่ได้เพราะจะหน้ามืด เป็นลมเพราะความดันต่ำ แต่วันนี้ด้วยแรงใจและพลังศรัธทาที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงมาโดยไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด
นายสันก์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ก็เห็นพระองค์ทรงงานหนักทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง และเสมือนเป็นพ่อแท้ๆ อีกคน หลัง จากนี้สิ่งที่พอจะทำได้ในวัยใกล้ฝั่ง จะน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ กับภรรยาและสั่งสอนลูกหลานในบั้นปลายชีวิตต่อไป เป็นสิ่งที่พอจะทำได้เพื่อเป็นถวายเป็นพระราชกุศล
ขณะที่ครอบครัว จิรโรจน์ฐิตินันท์ มากัน 2 คนพี่น้องลางานมาร่วมแสดงความอาลัย นางเอมอร จิรโรจน์ฐิตินันท์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้ตั้งใจว่าจะ ต้องมาให้ได้ ต่อให้แดดร้อน หรือฝนตกก็ต้องมาเพราะเป็นความตั้งใจที่อยากแสดงออกต่อพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายเพราะซาบซึ้งใจที่ทรงงานหนักไปตามสถานที่กันดาร อย่างไม่ลดละทั้งที่ทรงเป็นถึงกษัตริย์ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องทำ แต่ทรงทำเพื่อความสุข และประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย ซึ่งสิ่งที่พอจะทำได้หลังจากนี้จะทำความดี ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่นที่ทรงทำมาตลอดชีวิต อย่างน้อยเป็นการตอบแทน และถวายเป็นพระราชกุศล.-สำนักข่าวไทย