พรรคประชาธิปัตย์11 ธ.ค.-องอาจไม่วิตกกรณีกม.ลูกพรรคการเมืองมีบทลงโทษรุนแรง แต่ห่วงมาตรา 22 ที่อาจคุมสมาชิกจำนวนมากไม่ได้ ทำให้กรรมการบริหารอาจต้องถูกลงโทษเพราะลูกพรรคทำผิด
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่มีบทกำหนดโทษที่รุนแรงและเข้มข้น ว่า ไม่รู้สึกวิตกกังวลต่อบทกำหนดโทษที่บัญญัติไว้ในหมวด 10 ของกฎหมายฉบับนี้ที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึง 32 มาตราด้วยบทกำหนดโทษที่รุนแรง ทั้งจำคุก 10 ปี 20 ปี จำคุกตลอดชีวิต ไปจนถึงประหารชีวิต เพราะไม่คิดจะทำความผิดอยู่แล้ว แต่บทบัญญัติหลายมาตราตามร่างกฎหมายพรรคการเมืองสุ่มเสี่ยงที่พรรคการเมืองจะทำผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา หรืออาจถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงข้าม
“เช่นในมาตรา 22 บัญญัติว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสมาชิก ให้กรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้สมาชิก หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง กระทำการในลักษณะที่อาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม หรืออาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ถ้ากรรมการบริหารควบคุมสมาชิกไม่ได้ จนเกิดการกระทำความผิด กรรมการบริหารต้องพ้นจากตำแหน่ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค 20 ปี และอาจถูกลงโทษจำคุกอีก 10 ปีก็ได้” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า ถ้าพรรคใดมีสมาชิกนับล้านคน กรรมการบริหารพรรคจะควบคุมสมาชิกอย่างไร หรืออาจถูกฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อทำผิด จนเป็นเหตุให้กรรมการบริหารพรรคต้องออกจากตำแหน่ง และถูกลงโทษจำคุกด้วย จึงอยากฝากให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ช่วยดูปัญหาอุปสรรคของการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้จริงด้วย มิฉะนั้นอาจมีการเลี่ยงกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการหานอมินีมาเป็นกรรมการบริหารพรรคแทนผู้นำพรรคตัวจริง ซึ่งก็จะทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพรรคการเมืองให้ดีขึ้นตามจุดมุ่งหมายของกรธ. แต่กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก กรธ.ควรมีมาตรการที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อไม่ให้เกิดการเลี่ยงกฎหมายขึ้น
นายองอาจ กล่าวว่า เมื่อมีบทกำหนดโทษรุนแรง การให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่กรธ.ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ใช้กฎหมายกลั่นแกล้งกันหรือใส่ร้ายป้ายสี สร้างเรื่องเท็จเพื่อทำลายล้างทางการเมือง ร่างกฎหมายพรรคการเมืองฉบับนี้ ได้ให้อำนาจกับคณะกรรมการการเลือกตั้งมากพอสมควรในการกำหนดกฎเกณฑ์ กติกา รายละเอียดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยาน หลักฐาน เอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหา
“จึงอยากฝากให้กรธ.เขียนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง ให้ได้บุคลากรที่พร้อมจะทำงานด้วยความถูกต้องเที่ยงธรรม โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคล คณะบุคคล พรรคการเมือง เพื่อกลั่นแกล้งทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับกรรมการการเลือกตั้งบางคณะในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ การออกกฎหมายใดก็ตามต้องคำนึงถึงการปฏิบัติตามกฎหมายได้จริงเพื่อให้เป็นไปตามหลักการและเหตุผลที่ออกกฎหมายนั้นๆ การออกกฎหมายใดที่นำไปสู่ความพยายามหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามหรือไม่สามารถปฏิบัติตามได้จริง ก็จะเป็นการออกกฎหมายที่สูญเปล่า” นายองอาจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย