บก.ปอท. 11 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) จับกุมโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน จำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กบนดาร์กเว็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้จับกุมนายสเตฟเฟน อายุ 54 ปี สัญชาติเยอรมัน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่าย, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจก หรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก, และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวดตอร์” โดยสามารถจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ช่วงประมาณเดือนธันวาคม พ.ศ.2567 ตำรวจ ปอท.ได้รับการประสานมาจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ให้ช่วยดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เพราะได้ตรวจพบเว็บไซต์ที่มีการจำหน่ายสื่อที่มีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และสงสัยว่าอาจก่อเหตุในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนระบุตัวผู้กระทำความผิดได้ และยังใช้ดาร์กเว็บ (Dark web) เพื่อจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยมีทั้งคลิปแอบถ่าย, คลิปวาบหวิว, คลิปหลุด, คลิปการช่วยตัวเอง และคลิปการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าบุคคลที่ปรากฏอยู่ในสื่อลามกอนาจารส่วนใหญ่เป็นเด็ก
จากการตรวจสอบเว็บไซต์ที่จำหน่ายสื่อลามกอนาจารดังกล่าวพบว่า หากจะเข้าใช้บริการจะต้องมีการสมัครสมาชิก โดยผู้สมัครจะต้องโอนเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin หรือ Monero ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้ต้องหาก่อน จึงจะได้เป็นสมาชิก และจะได้รับเครดิตเท่ากับจำนวนเหรียญที่โอนไป หลังจากที่ได้เครดิตแล้ว หากเข้าดูคลิปวิดีโอใดในเว็บไซต์ก็จะถูกหักเครดิตตามราคาของแต่ละวิดีโอ นอกจากจะเข้าชมสื่อลามกอนาจารในเว็บไซต์นี้ได้แล้ว ยังสามารถดาวน์โหลดคลิปลามกอนาจารมาเก็บไว้ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิทัล พบว่าผู้ต้องหามีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายกระเป๋า โดยมีการแลกเปลี่ยนเหรียญสกุลเงินดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลเงินต่างๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย จากข้อมูลการสืบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับนายสเตฟเฟน สัญชาติเยอรมัน ผู้กระทำความผิดในคดีนี้ พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก, คอมพิวเตอร์แม่ข่าย, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล, บัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, ซิมการ์ด และสิ่งของอื่นๆ รวม 36 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อิสระอยู่ที่ประเทศเยอรมัน เมื่อเกษียณจึงเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย และใช้ความรู้ความสามารถทางด้านโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์จำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองเป็นผู้ดูแลจัดการดาร์กเว็บ 2 เว็บไซต์ ซึ่งมีวิดีโอลามกอนาจารกว่า 5,000 คลิป โดยส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก มีลูกค้าเป็นสมาชิกกว่า 10,000 ราย แต่ละรายจะต้องมีการชำระเงินขั้นต่ำในการเข้าชมจำนวน 10 ดอลลาร์ ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาได้รับเหรียญดิจิทัลสกุล Bitcoin จากลูกค้าแล้ว ผู้ต้องหาจะทำการยักย้ายถ่ายเทไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่น ๆ และแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลต่างๆ ก่อนจะนำเหรียญดิจิทัลมาขายเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของผู้ต้องหาเพิ่มเติม พบสื่อลามกอนาจารต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอ และภาพนิ่ง จำนวนมากกว่า 140,000 ไฟล์ อีกทั้งยังพบว่า ผู้ต้องหาได้มีการขายโปรแกรม Spyware ผ่านดาร์กเว็บ ซึ่งเป็นโปรแกรมลักลอบติดตั้งในอุปกรณ์โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อดักเก็บข้อมูลส่วนตัว โดย Spyware สามารถดักเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์, การรับสาย-โทรออก, ข้อมูลการพิมพ์, การแจ้งเตือนต่างๆ, ติดตามตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ ภายในอุปกรณ์ได้ โดยมีการขายเป็นรายเดือน เดือนละ 16.95 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 572 บาท. -420-สำนักข่าวไทย