อุดรธานี 10 มี.ค. – สองตายายประกาศหาคนดูแลหลานสาววัยขวบเศษ เพราะฐานะยากจน รับภาระไม่ไหว พ่อแม่เด็กไม่ดูแล ทิ้งลูกไปตัดอ้อยและติดยา ด้าน พม.อุดรธานี ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี พบนางสุชาวดี อายุ 65 ปี และนายสลัด อายุ 72 ปี อยู่บ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็กๆ ท้ายหมู่บ้าน ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกัน 4 ชีวิต มีตายาย หลานสาววัยขวบเศษ และหลานชายวัย 9 ขวบ
นางสุชาวดี บอกว่า ยายมาอยู่บ้านหลังนี้กับนายสลัด สามีใหม่ ที่เขาเห็นใจรับมาอยู่ด้วยได้ 7 ปีแล้ว ตอนนี้ลำบากมาก ลูกสาวคือ น.ส.นงลักษณ์ เอาลูกมาให้เลี้ยง 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็กเป็นหญิงอายุขวบเศษ แม่เขาไปตัดอ้อยที่ จ.สุพรรณบุรี ไม่เคยส่งเงินมาดูแลลูกเลย ยายและตาก็ลำบาก ไม่มีอาชีพ อาศัยเพียงเงินผู้สูงอายุซื้อข้าวกิน บางวันไม่มีเงินซื้อนมให้หลาน ต้องต้มน้ำข้าวให้หลานกิน ส่วนหลานชาย บางวันไม่มีเงินให้ไปโรงเรียน ต้องหยุดเรียน สำหรับหลานวัยขวบเศษ พ่อตายไปแล้ว เคยเอาไปให้ย่าเลี้ยง เขาบอกปัดจะเอาไปให้สถานสงเคราะห์ที่ไหนก็เอาไปเลย บอกไม่สนใจ จึงหอบหลานวัยขวบเศษกลับมาที่บ้านหลังนี้
ลูกสาวคือ น.ส.นงลักษณ์ ไปทำงานที่ไหนมีลูกที่นั่น ลูกดกมาก เคยบอกให้ทำหมันก็โกหกว่าทำแล้ว และติดยาเสพติดด้วย ตอนนี้ น.ส.นงลักษณ์ มีลูก 6 คน แต่คนละพ่อ ปู่และย่าเขารับไปเลี้ยง 3 คน ตอนนี้เหลืออยู่ 3 คน อยู่กับยาย 2 คน อีกคน น.ส.นงลักษณ์ เอาไปด้วย ตนเองเลี้ยงหลานวัยขวบเศษไม่ไหวแล้ว ใครมีจิตเมตตาอยากอุปการะเลี้ยงดูมาเอาไปได้เลย หรือสถานสงเคราะห์อยากได้มาเอาไปได้เลย ถามว่าสงสารหลานไหมก็สงสาร แต่อยากให้หลานมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ไ ม่ต้องมาลำบาก และหากวันใดวันหนึ่งตาและยายจากไป แม่เขาก็คงปล่อยลูกทิ้งตามยถากรรมแน่
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามกับ น.ส.นงลักษณ์ ผู้เป็นแม่ของ บอกว่าคงให้ลูกใครไปเลี้ยงไม่ได้ เพราะจะกลับบ้านไปรับมาอยู่อีก 10 กว่าวัน ใกล้ตัดอ้อยเสร็จแล้ว ขณะที่ชาวบ้านต่างไม่เชื่อคำพูดของ น.ส.นงลักษณ์
ต่อมาเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กอุดรธานีและเจ้าหน้าที่ พม.อุดรธานี รีบรุดเดินทางไปตรวจสอบทันที เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ แนะนำให้ยายเลี้ยงต่อ เพราะหากเอาเด็กไปที่อื่นเด็กอาจจะไม่ชิน และจะมีขั้นตอนดำเนินการเป็นลูกบุญธรรมอีกหลายขั้นตอน ที่สำคัญแม่ของเด็กไม่ยอม บอกว่าจะมารับลูกไปดูแลอีก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ เตรียมนำเรื่องเสนอผู้ว่าฯ อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้เดือนละ 3,000 บาท โดยมอบสิ่งของที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง นม และเงินสด ช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน
ขณะเดียวกันหลังมีข่าวยายประกาศหาคนรับเลี้ยงหลาน มีประชาชนทั่วประเทศติดต่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้มากมาย ทั้งเตรียมซื้อจักรยานคันใหม่ให้น้องวัย 9 ขวบ ปั่นไปโรงเรียน ซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียน และสิ่งของจำเป็น นม ผ้าอ้อม มาช่วยน้องวัยขวบเศษด้วย นอกจากนี้ยังมีหลายคนแจ้งความประสงค์ช่วยเหลือครอบครัวเป็นสิ่งของใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย
