ดินแดง 5 ต.ค.-ก.แรงงาน ตรวจเข้มผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศทุกสนามบิน ล่าสุดระงับการเดินทางไปเกาหลีใต้ 6 ราย โดยคนหางานยอมรับจะลักลอบไปทำงานนวดและงานเกษตร หลังได้รับชักชวนทางสื่อออนไลน์
นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานเร่งตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศในทุกสนามบินอย่างเข้มงวด และพิจารณาระงับการเดินทางเพื่อป้องกันมิให้คนหางานถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี หรือถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งเบาะแสว่า จะมีนายหน้าและกลุ่มคนหางานจะลักลอบไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิจึงเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกสายการบินปรากฏว่าพบคนหางานจำนวน 6 คนมีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานเกาหลีใต้ จึงเชิญทั้ง 6 คนมาสอบปากคำ ทั้งหมดให้การยอมรับว่า จะลักลอบเดินทางไปทำงานนวดและงานเกษตรที่เมืองปูซาน ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี โดยได้รับการชักชวนทางสื่อออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงได้ระงับการเดินทาง พร้อมชี้แจงให้ทราบถึงการไปทำงานหรือฝึกงานในต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าต้องแจ้งหรือขออนุญาตต่อกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวต่อว่า จากข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่ามีคนไทยพำนักอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลี ประมาณกว่า 100,000 คน โดยมีผู้พำนักเกินกำหนดเวลากว่า 50,000 คน เพราะปัจจุบันการเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีไม่ต้องใช้วีซ่า จึงเป็นเหตุให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีเพิ่มความเข้มงวดคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศของตน
สำหรับงานนวดนั้นสาธารณรัฐเกาหลีจะไม่มีการจ้างแรงงานต่างชาติแต่อย่างใด แต่จะสงวนไว้สำหรับชาวเกาหลีที่พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมแล้วเท่านั้น จึงขอย้ำเตือนอีกครั้งว่าการทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีทำได้ 2 วิธีคือ 1. ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) อนุญาตให้ทำงานได้ 5 กิจการคือ 1) กิจการอุตสาหกรรมการผลิต 2) กิจการเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ 3) กิจการก่อสร้าง 4) กิจการประมง 5) กิจการบริการ และจะต้องผ่านการทดสอบความสามารถภาษาเกาหลีก่อนจึงจะได้รับการจัดส่งรายชื่อให้นายจ้างเกาหลีคัดเลือกให้เข้าไปทำงาน
2. แรงงานต่างชาติประเภทช่างฝีมือ ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติหรือขอวีซ่าจากกระทรวงยุติธรรมสาธารณรัฐเกาหลี โดยต้องผ่านการทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐานจาก ROTRA (Korea Trade – investment Promotion Agency) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการคัดสรรคนงานที่มีทักษะฝีมือ หรือมีความสามารถผ่านระบบ HUNET KOREA
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวด้วยว่า สำหรับคนงานไทยมีกระแสนิยมไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสให้สาย/นายหน้าหรือบริษัทจัดหางานเถื่อนใช้เป็นช่องทางหลอกลวงได้ ปัจจุบันมักจะหลอกลวงทางสื่อออนไลน์เพราะเข้าถึงง่าย เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง รักษาภาพลักษณ์ของคนไทยและไม่ให้กระทบต่อคนไทยที่ปฏิบัติถูกต้อง จึงขอให้อย่าหลงเชื่อผู้ชักชวนให้ไปทำงานในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลร้องทุกข์หรือแจ้งเบาะแสการหลอกลวงได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน โทร. 0-2248-4792 , 0-2245-6763 หรือสายด่วน 1694 .-สำนักข่าวไทย