4 ธ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางปิดตำนานกงจู แก๊งหลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ กวาดล้าง 5 จุด เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจ ปคม. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จับแก๊งกงจูขบวนการหลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ มีผู้เสียหาย จำนวน 13 คน ความเสียหายรวมทรัพย์สิน 3,197,680 บาท นอกจากนี้ยังพบมีเหยื่อที่ถูกหลอกอีกหลายราย รวมความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท โดยกระจายกำลังเข้าจับผู้ต้องหาได้ ใน 5 พื้น บ้านพักพื้นที่ จ.ปทุมธานี, จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร รวม 8 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวน 11 รายการ อาทิ รถยนต์ เอกสารการที่เกึ่ยวข้องกับการขอ
พฤติการณ์ของแก๊งนี้ เริ่มขบวนการหลอกลวงประชาชน ตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.66-ก.ค.67 มีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างต่อเนื่อง ผู้ต้องหากลุ่มแรก จะทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท บังหน้าว่าเป็นบริษัทจัดหางาน เพื่อส่งแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ, กลุ่มที่ 2 จะหว่านล้อม และหลอกลวงประชาชนทั่วไปว่า สามารถยื่นขอวีซ่าและจัดหางานที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ได้ เนื่องจากได้รับโควตาจากนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ ให้หาคนไปทำงานประเภทงานเกษตร งานช่างตกแต่ง โรงงานขนมปัง ซึ่งนายจ้างและงานทั้งหมดไม่มีอยู่จริง โดยจะเตรียมนัดประชุมวางแผนหลอกลวงผู้เสียหายที่บ้านพักของผู้ต้องหาในพื้นที่กรุงเทพฯ และอาคารพาณิชย์ฯ ในพื้นที่สุขุมวิทซอย 13 โดยผู้ต้องหาจะนัดหมายให้ผู้เสียหายมาทำเอกสารตาม วัน และเวลาต่าง ๆ ที่ผู้ต้องหานัดหมาย ซึ่งจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการหลอกลวงว่าเคยมีผู้สมัครแล้วได้ไปทำงานได้จริง
นอกจากนี้ จะชักชวนเข้ากลุ่มไลน์ และมีการสร้างสตอรี่เรื่องราวขายฝันชักชวนคนไทยไปทำงานที่ต่างประเทศ สร้างความน่าเชื่อถือ เช่น นิวซีแลนด์ เกาหลี จากนั้นจะมีตัวละครต่างๆ หรือหน้าม้าโผล่ขึ้นมา ไปทำงานสถานที่ต่าง ๆ เก็บผลไม้ ใช้แรงงาน แล้วถ่ายรูปส่งในกลุ่มไลน์ที่มีผู้เสียหายอยู่หลายร้อยคน เพื่อหลอกให้เชื่อว่า ทางบริษัทสามารถจัดหางานส่งคนไปทำงานต่างประเทศได้จริงและได้ทำงานจริง โดยผู้เสียหายที่ถูกหลอก จะมี 2 แบบ คือโดนหลอกไปแต่ไม่ได้มีงานทำจริง และได้เดินทางไปจริงแต่ไม่ได้รับค่าจ้าง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีเอกสารคนไทย จำนวน 450 คน ที่ถูกหลอกไปแล้ว และเสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว 5 พันบาท และเอกสารการทำวีซ่าไม่ตรงกับความเป็นจริง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ในฐานกระทำผิด “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง, ฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน.-416-สำนักข่าวไทย