มธ.4 ต.ค.-รัฐบาลเตรียมความพร้อมแนวปฏิบัติสำหรับสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รายงานข่าววันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯพร้อมเตรียมแผนรองรับประชาชน เผยพื้นที่มณฑลพิธีจุคนได้ 45,000 คน ส่วนรอบนอก ถ.ราชดำเนินถึงพระลานพระราชวังดุสิตราว 2.5 แสนคน จัดจุดถวายดอกไม้จันทน์ไว้ทั่วประเทศ
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แถลงข่าว งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลเตรียมความพร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในฐานะที่ประชาชนเป็นแขกคนสำคัญ และรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชี้แจงรายละเอียดในการอำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าร่วมถวายดอกไม้จันทน์ รวมถึงแนวปฏิบัติสำหรับสื่อมวลชน ในงานวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ระหว่างวันที่25-29 ตุลาคม2559 พร้อมมอบให้คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชี้แจงรายละเอียดในช่วงเดือนตุลาคม โดยกำหนดรูปแบบการออกอากาศ ดังนี้ วันที่ 1-12 ตุลาคม เริ่มปรับโทนสี องค์ประกอบฉาก และการแต่งกาย
วันที่13-24 ตุลาคม นำเสนอรายการพิเศษมีเนื้อหาเพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ลดรายการบันเทิง ตลก และวันที่13 ตุลาคม จัดรายการพิเศษเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
ส่วนวันที่25-29 ตุลาคม รับสัญญาณถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีล่วงหน้า1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังส่งสัญญาณผ่านสถานีโทรทัศน์Thai TV Global Network กว่า170 ประเทศทั่วโลก พร้อมเตรียมศูนย์สื่อมวลชนไว้ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจัดจุดลงทะเบียนประจำอัฒจันทร์รอบมณฑลพิธีอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้ภาพออกมางดงามที่สุด
นายออมสิน กล่าวต่อไปว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชน จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองขึ้นใน77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นต่างจังหวัดได้รับความสะดวก พร้อมมีจอแอลอีดีรับชมการถ่ายทอดภาพประวัติศาสตร์ในริ้วขบวนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ อย่างครบถ้วน สำหรับคน กทม.ก็มีพระเมรุมาศจำลอง 9 จุด อาทิ พระลานพระราชวังดุสิต สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม สวนนาคราภิรมย์ และมีซุ้มวางดอกไม้จันทน์ทั่ว กทม.113 จุดด้วยกัน สามารถโหลดข้อมูลได้ที่www.kingrama9.th
ทั้งนี้ เข้าใจว่าทุกคนอยากมาสัมผัสบรรยากาศในมณฑลพิธีท้องสนามหลวง แต่เนื่องจากพื้นที่จำกัด ซึ่งพระลานพระราชวังดุสิต ยาวถึงถนนรอบสนามหลวง จุคนได้ประมาณ 250,000 คน อาจไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งหากประชาชนอยู่ในจังหวัดของตนเองจะสะดวกกว่า
สำหรับการเข้าจับจองพื้นที่ในมณฑลพิธีรอบสนามหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มเคลียร์พื้นที่ให้ประชาชนออกนอกจุดคัดกรองในวันที่ 24 ตุลาคม และเริ่มเปิดจุดคัดกรองให้ประชาชน เข้ายังพื้นที่ด้านในสนามหลวง ในวันที่25 ตุลาคม เวลา 05.00 น.โดยแบ่งจุดคัดกรอง 9 จุด รอบถนนสนามหลวง โดยจุดที่ประชาชนจะได้อยู่ใกล้ริ้วขบวนมากที่สุด คือบริเวณถนนหน้าศาลฏีกายาวไปถึงถนนหน้าศาลหลักเมือง โดยพื้นที่รอบสนามหลวงจุคน ได้เพียง 45,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประกาศแจ้งเป็นระยะ เนื่องจากหากเกินความจุจะไม่มีที่ยืนเพื่อไม่ให้ประชาชนผิดหวังจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งเตือนเป็นระยะว่าเหลืออีกกี่คิวที่สามารถเข้ายังมณฑลพิธีได้
ส่วนวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพวันสุดท้ายจนถึงเวลาเที่ยงคืน จะให้ประชาชนเข้าจนหมดทุกคน เช่นคนสุดท้ายแถวยาวถึงจุดไหนก็จะให้เข้าจนครบทุกคน
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากเข้าร่วมในพื้นที่พระราชพิธีในวันที่26 ตุลาคม ปฏิบัติเช่นเดียวกับประชาชนไทย คือต้องผ่านจุดคัดกรอง แสดงบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ระบบรักษาความปลอดภัยรัฐบาลทำอย่างเต็มที่จะดูแลทุกเรื่องอย่างดีที่สุด และจะมีการปิดเส้นทางจราจรหลายจุด สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน1441 ให้บริการข้อมูลทุกเรื่องในงานพระราชพิธีฯ
ส่วนช่วงหลังงานออกพระเมรุ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศพร้อมนิทรรศการ ตั้งแต่วันที่1-30 พฤศจิกายน 2560.-สำนักข่าวไทย