“ภูมิธรรม” หารือ รมว.กลาโหมสหรัฐ

20 ก.พ. – รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหารือผ่านทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ


พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวว่า ในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือผ่านทางโทรศัพท์กับนาย Pete Hegseth (พีท เฮกเซธ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

ซึ่งที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้มีการหารือทางโทรศัพท์เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่และหารือด้านความมั่นคงร่วมกัน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้


โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้แสดงความยินดีที่ นาย Pete Hegseth ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ รวมทั้งยืนยันการสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของแถลงการณ์วิสัยทัศน์ระหว่าง ไทย – สหรัฐฯ ค.ศ. 2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ (Joint Vision Statement 2020 for the Thai-U.S.Defense Alliance)รวมทั้งขอบคุณฝ่ายสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทารทหารให้กับไทยผ่านโครางการต่าง ๆ และสนับสนุนที่นั่งศึกษาให้กับฝ่ายไทย ทั้งนี้ ยินดีเป็นอย่างยิ่งหากทางสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งไทยได้ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนที่นั่งศึกษาแก่กําลังพลของ กห. โดยเฉพาะภายใต้โครงการ “ไอ – เม็ท” (IMET) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของกําลังพลให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นํากองทัพที่มีคุณภาพและมีความเป็นทหารอาชีพ ผมจึงอยากขอให้ทำงานได้ช่วยสนับสนุนโครงการดังกล่าวกับไทยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในด้านการศึกษาของกําลังพล เป็นเสมือนสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ทางการทหารที่มีมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีความสําคัญในการในการพัฒนาขีดความสามารถในการ ปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในอนาคต รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอบคุณฝ่ายสหรัฐฯ สําหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทางการทหาร ให้กับกองทัพไทยผ่านโครงการความช่วยเหลือแบบต่างๆ ตลอดห่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผมจึงอยากขอให้สหรัฐฯ ดํารงและรักษาซึ่งภาพความร่วมมือต่างๆเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองชาติในภูมิภาค

ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และมีความร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งยืนยันถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศเช่นประเทศไทย นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าสหรัฐฯ ยินดีให้การสนับสนุนหากไทยซึ่งเป็นมิตรประเทศในด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววัน


นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศร่วมกันอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท