กรุงเทพฯ 22 ก.พ.- “ภูมิธรรม” ประกาศเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทยและโลก ให้พ้นจากเครือข่ายมิจฉาชีพ ตามนโยบาย “นายกฯ แพทองธาร”
นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประชาชนไทย และประชาคมโลก รัฐบาลตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่เพียงแค่การจับกุมผู้กระทำผิด แต่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การตัดเส้นทางปฏิบัติการของกลุ่มอาชญากร การช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวง ไปจนถึงการสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะปัญหาใหญ่ระดับนี้ไม่สามารถทำเพียงประเทศใดประเทศหนึ่งได้
ที่ผ่านมารัฐบาลไทย ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกภายใต้ความร่วมมือกับ จีนและเมียนมา ผ่านแผนปฏิบัติการ “ตัดไฟ ตัดเน็ต ตัดน้ำมัน” ใน 5 จุดสำคัญ เพื่อลดศักยภาพของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ สามารถสกัดกั้นขบวนการเหล่านี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ตนได้ดำเนินการประสานงาน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศของ สปป.ลาว ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และได้มีความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะช่วยกันปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยได้เรียนให้ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ รับทราบเพื่อทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน
นอกจากนั้น เพื่อป้องกันการย้ายฐานของเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ ยังได้สั่งการให้ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางด่วนเพื่อร่วมประชุมวางแผนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศกัมพูชา โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ได้รายงานถึงข้อสรุปจากการประชุม ทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
- ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป โดยมีเป้าหมายเข้าไปกวาดล้าง ตรวจค้น จับกุม ในจุดต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งของแก๊ง โดยทางตำรวจไทยขอนำตัวคนไทยกลับมาลงโทษตามกฎหมายที่ประเทศไทย
- ร่วมกันช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างรวดเร็ว
- ให้มีการประสานงานร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อความรวดเร็วในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป การประชุมวางแผนปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ให้เด็ดขาด
“การแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับทั้งกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนคนไทยให้พ้นจากเครือข่ายมิจฉาชีพ เราได้ลงมือทำจริง และวันนี้ ผลลัพธ์เริ่มปรากฏชัดเจนว่าการแก้ไขปัญหานี้เราเดินมาถูกทาง รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากการถูกหลอกลวง และขอให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่หยุดปฏิบัติการจนกว่าปัญหานี้จะหมดไป” นายภูมิธรรม กล่าว .-316- สำนักข่าวไทย