“หลิว จงอี” พบ “ภูมิธรรม” พรุ่งนี้ ชง 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

กลาโหม 18 ก.พ.- “หลิว จงอี” พบ “ภูมิธรรม” อีกครั้งพรุ่งนี้ เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำตัดไฟฟ้า-น้ำมันต่อ แม้เมียนมาวอนยกเลิก ให้สกัดอาชญากร ย้ายพื้นที่อำนวยความสะดวก ส่งคนจีนกลับประเทศ


พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการ รมว.กลาโหม เป็นผู้แทน รมว.กลาโหม มาต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหา คอลเซ็นเตอร์ (Call Center) การพบปะกับหน่วยในพื้นที่ ทำให้ทราบข้อขัดข้อง จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการปฏิบัติ อย่างใกล้ชิด

สำหรับข้อเสนอที่ได้รับ โดยจะนำเรียน รมว.กลาโหม ต่อไป ซึ่งวันที่ 19 ก.พ. จะมีการหารือกับรมว.กลาโหม อีกครั้ง โดยการหารือกับทางนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทางจีนมีการเสนอแนะ 4 ข้อ คือ


  1. เสริมสร้างกลไกไตรภาคี ภายใต้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายและกฎหมายท้องถิ่น ในอนาคตอาจเพิ่มสมาชิก ขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมเตรียมความพร้อม และ ประชุมเป็นทางการ ตามที่ไทยกำหนด สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมสนับสนุน
  2. มาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเทอร์เน็ตและ น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ไทยดำเนินการต่อ แม้จะมีการเรียกร้องจากประเทศเมียนมาให้ยกเลิก
  3. ให้การสกัดกั้น ควบคุม พื้นที่ไม่ให้อาชญากร หลบหนีหรือเคลื่อนย้ายไปพื้นที่อื่น
  4. ให้ไทย ช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน กำหนด Proof Of Concept ( PoC) ทั้ง ไทย จีน และเมียนมา โดยจีนจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ส่งไทยอำนวยความสะดวกตั้งแต่ชายแดน จนถึงสนามบินโดยการร้องขอกองกำลังทหารในการรักษาความปลอดภัย

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ทางเมียนมา ขอให้ไทยยกเลิกมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน และอินเทอร์เน็ต เพราะจะทำให้ผู้ถูกควบคุมตัว ไม่ได้รับการดูแล แออัด อาจเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ ประชาชนจังหวัดเมียวดีซึ่งมีกว่าหนึ่งแสนคน ได้รับผลกระทบ รวมทั้งโรงพยาบาล ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชน ในการผ่าตัดได้ เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ล้วนแต่ต้องการใช้ไฟฟ้า และต่อไปในอนาคต จะให้ส่งกลับบุคคลผ่านช่องทางเมียนมาที่เป็นทางการเท่านั้น (ไม่ให้ชนกลุ่มน้อย/DKBA ส่งกลับเอง)

โดยเลขานุการ รมว.กลาโหม ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันแก้ปัญหา ไทยยินดีร่วมมือ เพราะได้รับผลกระทบอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และต้องการยุติปัญหาให้เร็วที่สุด รายละเอียดการปฏิบัติจะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งระดับผู้ปฏิบัติ Poc ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ข้อเสนอจากจีนและเมียนมา จะนำเรียนผู้มีอำนาจตกลงใจต่อไป ขอยืนยันว่าการส่งกลับคนจีน จะนำรูปแบบของปี 67 มาประยุกต์ใช้ แม้ว่าจะยังไม่มีศูนย์ประสานงาน แต่ในช่วงนี้ ขอให้ Poc ประสานงาน เพื่อให้การส่งกลับเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้จะประสานทางสถานเอกอัครราชทูต ที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากประเทศต่างๆ มารับตัวกลับ


โดยทางการจีนแจ้งว่าการรับคนจีนที่ผ่านแดนมาจากเมียนมาจะใช้เครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมา โดยสามารถรองรับได้วันละ 6 เที่ยวบิน โดยแต่ละเที่ยวบินจะมีคนจีนที่ถูกส่งตัวกลับ 50 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยจำนวน 100 นาย ขนคนกลับได้วันละไม่เกิน 300 คน

ทั้งนี้ ผู้ประสานงานฝ่ายจีนแจ้งให้ทราบว่า วันนี้ (17 ก.พ.68) สอท.จีนได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศแล้วในเรื่องการส่งกลับคนจีน ซึ่งจะเริ่มต้น วันที่ 20 ก.พ.68 จำนวน 200 คน โดยสายการบิน Southern China ได้ประสานงานกับ ทอ.แม่สอดเรียบร้อยแล้ว

“ตามแนวทางการปฏิบัติของ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการแก้ปัญหาของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติและคอลเซ็นเตอร์รวมทั้งการพนันผิดกฎหมาย จากการที่มีการดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอก จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในการปฏิบัติงานที่ผ่านมา จนมาถึงขั้นตอนกระบวนการ การนำพาสู่กลับประเทศต้นทาง การปฏิบัติงานได้รับการยอมรับและคำชมเชยจากสถานทูตของประเทศต่างๆ ทั้งประเทศอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา จีน เมียนมา และประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการดำเนินการด้วยความร่วมมืออย่างบูรณาการระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา และ จีน ซึ่งทำให้การร่วมกันแก้ไขปัญหาระดับนานาชาติ บรรลุผลสำเร็จไปได้ด้วยดี” พล.ต.ธนาธิป กล่าว-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]