อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

นักโทษกลับใจ

สงขลา 20 ก.พ. – อดีตนักโทษใช้ชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา


นายสมพร อายุ 49 ปี อดีตนักโทษ ที่แทบจะโตมาในคุกทั้งชีวิต เคยติดทั้งเรือนจำสุราษฎร์ธานี เรือนจำสงขลา และเรือนจำเขาบิน ติดตั้งปี 2537 ตอนอายุ 19 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2565

และเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดปราบปราบยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จับกุมนายสมพร กำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดกับกลุ่มเพื่อน ภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อตำรวจสอบถามว่ามีญาติพี่น้องหรือไม่ เพื่อจะแจ้งให้ทราบว่าถูกจับ นายสมพร บอกว่า ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะติดคุกไม่ได้กลับบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี มา 30 ปีแล้ว ตำรวจจึงช่วยค้นหาญาติในทะเบียนราษฎรจนทราบว่าน้องชาย กับพ่อ ยังอยู่ที่บ้านนี้ แต่น้องสาวเสียชีวิตไปแล้ว ทันทีที่รู้ว่าน้องสาวเสียชีวิต นายสมพร ถึงกับก้มหน้าร้องไห้ ตำรวจจึงค้นหาเบอร์น้องชายจนเจอ และโทรวิดีโอคอลให้พี่น้องได้เห็นหน้าและคุยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งน้องชายบอกว่าพ่อยังถามหาตลอดและเป็นห่วงเสมอ และนายสมพร สัญญาว่าหลังจากจบคดีที่ถูกจับ ก็จะกลับตัวกลับใจและกลับบ้านไปอยู่กับพ่อ


ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายสมพร ได้รับอิสระอีกครั้ง จากคดียาเสพติดที่เพิ่งถูกจับ ศาลสั่งปรับ 4,000 บาท แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงถูกคุมตัวไปขังแทนค่าปรับ และทันทีที่ได้รับอิสระก็ได้มาหาตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด หรือชุดตะวันที่ สภ.หาดใหญ่ เพราะตำรวจชุดจับกุมบอกว่าถ้าพ้นโทษออกมาให้มาหาพี่ๆ ตำรวจเพื่อช่วยพากลับบ้าน โดยมี ด.ต.สนธยา ขุนทองปาน หรือ จ่าเอี้ยง ผบ.หมู่ สส.สภ.หาดใหญ่ คอยดูแล นอกจากจ่าเอี้ยงจะช่วยโทรหาพ่อแล้ว ยังเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ พาไปเก็บสัมภาระส่วนตัว และพาไปส่งที่คิวรถตู้ตลาดเกษตรหาดใหญ่ ซื้อตั๋วโดยสารให้ และให้เงินติดกระเป๋าอีก 500 บาท โดยโทรนัดกับพ่อให้ไปรับที่สถานีตลาดเกษตร 1 ที่บ้านดอนสุราษฎร์ธานี โดยออกเดินทางในช่วงบ่าย 3 โมง และคาดว่าจะถึงสุราษฎร์ธานีตอน 2 ทุ่ม

นายสมพร เล่าว่าที่ต้องติดคุกนานกว่า 30 ปี เพราะก่อคดีลักทรัพย์ 20 คดี ถูกจับกุมเมื่อปี 2537 ศาลพิพากษาจำคุก 33 ปี 4 เดือน ครั้งแรกติดคุกที่เรือนจำสุราษฎร์ธานี แต่แหกกฎ จึงถูกส่งตัวมาอยู่ที่เรือนจำ จ.สงขลา เมื่อปี 2543 แล้วก็ยังประพฤติตัวไม่ดีเลยถูกลดชั้นมาอยู่ในกลุ่มนักโทษชั้นต่ำสุด ไม่ได้รับการลดหย่อนโทษ และเมื่อปี 2562 ก็ถูกย้ายไปอยู่เรือนจำกลางเขาบิน จนกระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2565 ส่วนฉายา “กุ้งใต้ราว” เป็นฉายาที่ได้มาจากคุก เพราะมักจะไปรวมหัวแอบกันหลบมุมอยู่ใต้ราวผ้า เมื่อพ้นโทษก็มาอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ มีแฟนอยู่กินด้วยกัน 3 ปี ก็เลิกรากันไป และก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนถูกตำรวจชุดตะวันจับกุม แต่ถือเป็นโชคดี เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง เพราะตำรวจชุดตะวันได้ติดต่อญาติจนได้คุยกับน้อง แม้ว่าน้องสาวจะไม่อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็รู้ว่ายังมีน้องชายและพ่อที่ยังรออยู่ จึงตัดสินใจกลับตัวกลับใจ เมื่อพ้นโทษ จึงตัดสินใจมาหาตำรวจชุดตะวันทันที โดยไม่กลับไปอยู่ที่เดิมอีกต่อไปแล้ว ขอบคุณที่ได้มอบโอกาสและชีวิตใหม่ให้กับตน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง