วอชิงตัน 11 ม.ค. – ราคาทองคำพุ่งสูงต่อเนื่อง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประกาศเตรียมใช้มาตรการภาษีครั้งใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและภาวะเงินเฟ้อรุนแรง
ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นทำสถิติต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ทะลุแนวต้านสำคัญ 2,900 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่คำขู่ในการปรับขึ้นภาษีครั้งใหม่ของนายทรัมป์ ส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและอัตราเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น
ราคาทองคำแท่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 มาอยู่ที่ 2,905.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงเวลา 13.45 น.วันจันทร์ตามเวลาตะวันออกในสหรัฐฯ หรือ 01.45 น. ของวันนี้ตามเวลาในไทย หลังจากพุ่งสูงทำสถิติ 2,911.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในการซื้อขายช่วงเช้า ส่วนราคาทองคำล่วงหน้าในสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 อยู่ที่ 2,934.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นายทรัมป์ประกาศในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า จะปรับขึ้นภาษีร้อยละ 25 ต่อเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้า เขายังบอกด้วยว่า จะประกาศอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ในสัปดาห์นี้ โดยจะเท่ากับอัตราที่ประเทศอื่นกำหนดและจะเริ่มบังคับใช้ทันที คาดว่าเป็นการกำหนดอัตราภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้ายานยนต์นำเข้าของสหภาพยุโรป คาดว่ามาตรการภาษีของทรัมป์ อาจทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐสูงขึ้น โดยนักลงทุนจะรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ พีพีไอ (PPI) ของสหรัฐที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์
ฟิลิป สไตรเบิล หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดบริษัท บลู ไลน์ ฟิวเจอร์ (Blue Line Futures) กล่าวว่า การที่ราคาทองคำพุ่งขึ้น 45 องศา หรือไต่ขึ้นไม่หยุดตั้งแต่เดือนธันวาคม ทำให้มีแนวโน้วสูงว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นอีก โดยอาจไปอยู่ที่ประมาณ 3,250 ดอลลาร์ หรือ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเร็วๆ นี้.-815.-สำนักข่าวไทย