เด็ก ม.1 ถูกเพื่อน-รุ่นพี่นับสิบรุมทำร้าย บังคับกราบเท้า

บุรีรัมย์ 11 ก.พ. – เด็ก ม.1 ถูกเพื่อนและรุ่นพี่นับสิบคน รุมทำร้าย-บังคับกราบเท้า ในรั้วโรงเรียน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์


เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ โดยเด็กสาวประมาณ 10 คน รุมทำร้ายร่างกายเด็กหญิงเอ นามสมมติ อายุ 13 ปี ภายในห้องน้ำของโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากการทำร้าย เด็กหญิงเอ ยังถูกบังคับให้กราบเท้าขอโทษ

ภายหลังทราบเรื่อง พ่อและแม่ของเด็กหญิงเอ รับไม่ใด้กับเรื่องที่เกิดขึ้น พาลูกสาวเข้าแจ้งความ ที่ สภ.ละหานทราย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ พร้อมฝากถึงโรงเรียนอยากให้มีมาตรการในการดูแลนักเรียนให้ดีกว่านี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าทำเกินกว่าเหตุมาก คนตั้ง 10 คนรุมทำร้ายลูกตนคนเดียว นอกจากนี้ ในคลิปยังเห็นมีการนำบุหรี่ไฟฟ้ามาดูดกันอีกด้วย


ด.ญ.เอ เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 10 ก.พ.2568 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะนั้นตนอยู่ชั้นล่างกับรุ่นพี่ เพื่อนในห้องเดียวกันได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าให้ขึ้นห้องเช็คชื่อเข้าห้องเรียนแล้ว พอตนเข้าไปนั่งในห้องผู้ก่อเหตุ เดินมาถามว่าเคืองอะไร อยากคุยอะไรเหรอ สักพักเขาก็ตบหน้าแล้วจิกหัวลากออกจากห้องไปตบที่หน้าห้องเรียนอีก ตบเสร็จก็ลากลงไปในห้องน้ำแล้วก็ถามอีกว่าเคืองอะไร แล้วก็พูดกับตนเองว่าตัวเองไปว่าคนนั้นคนนี้ไปนินทาคนอื่น ทั้งที่ตนเองไม่เคยพูด แล้วเขาก็ตบหน้าซ้ำอีก ก่อนใช้เท้าเหยียบที่หัว แล้วใช้ขันในห้องน้ำฟาดที่หลังจนขันแตกหลังเขียวช้ำ ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ปรากฏตามคลิปมีประมาณ 10 คน มีทั้งเพื่อน ม.1 ด้วยกัน และรุ่นพี่ ม.3 ด้วย ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรกับกลุ่มที่ทำร้ายตนเองและไม่ได้ไปนินทาหรือว่าอะไรเขาเลย น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งนอกจากเขาจะรุมทำร้ายแล้วยังบังคับให้ตนกราบเท้า เหตุการณ์ที่ตนถูกทำร้ายอยู่ในห้องน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีพี่ ม.3 คนหนึ่งเดินมาพูดว่าจะไปบอกครู เขาถึงยอมหยุดและแยกย้ายกัน

ล่าสุด พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผู้กำกับการ สภ.ละหานทราย พร้อมพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอละหานทราย รวมถึงครูฝ่ายปกครองกิจการนักเรียน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณห้องน้ำภายในโรงเรียน ตามที่ปรากฏในคลิป

จากนั้นได้เชิญผู้ปกครองนักเรียนมาร่วมพูดคุย และรับฟังข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นด้วย จากการพูดคุยเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดว่านักเรียน ม.1 ที่ถูกทำร้ายไปต่อว่าหรือนินทาลับหลังทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ จนเกิดการทำร้ายร่างกายกันและบังคับให้ก้มกราบเท้าขอโทษ


ซึ่งผู้ปครอง และนักเรียนที่ก่อเหตุ ก็ได้ขอโทษพ่อแม่ และนักเรียนที่ถูกทำร้ายต่อหน้า ตำรวจ และคณะครูในโรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกทำร้ายก็ยกโทษให้ แต่ส่วนเรื่องกฎระเบียบของทางโรงเรียน และคดีการทำร้ายร่างกายก็เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการ

ผู้ปกครองของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ร่วมในการก่อเหตุและปรากฏในคลิป บอกว่ารู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนมาลูกสาวจะร่วมก่อเหตุทำร้ายเพื่อนในโรงเรียน เบื้องต้นก็ได้ขอโทษทางผู้ปกครองและน้องที่ถูกกระทำแล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยาก็ต้องพูดคุยกับอีกครั้ง ส่วนที่ทางโรงเรียนจะดำเนินการอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของทางโรงเรียน

ขณะที่บิดาของนักเรียนหญิง ม.1 ที่ถูกรุมทำร้าย บอกว่าหลังจากที่ทางผู้ปกครอง และนักเรียนที่ก่อเหตุได้มาขอโทษ ส่วนตัวก็อภัยให้เพราะเข้าใจว่ายังเป็นเยาวชนอาจจะทำอะไรไปโดยไม่ได้คิดไตร่ตรอง แต่ก็อยากฝากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลใกล้ชิดไม่ให้ก่อเหตุกับลูกสาวแบบนี้อีก แม้ร่างกายจะไม่ได้บาดเจ็บมากแต่กระทบต่อสภาพจิตใจ ทั้งพ่อแม่และลูกสาว เบื้องต้นก็ได้เสนอให้ทางผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุเยียวยาคนละ 20,000 บาท ก็จะไม่ติดใจเอาเรื่องเพราะอยากให้โอกาสเด็ก แต่ตำรวจบอกว่าเป็นคดีทำร้ายร่างกาย ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ก็อยากฝากให้ทางโรงเรียนได้เพิ่มความเข้มงวด ในการดูแลเด็กนักเรียนให้มากขึ้น รวมถึงอยากให้ติดกล้องวงจรปิดจุดอับต่างๆ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก

ด้านนายอำนาจ ศิลป์ปักษา อาจารย์กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน บอกว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว ทางคณะผู้บริหารก็กำลังจะมีการเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยและดำเนินการตามระเบียบ แต่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่างๆ ก่อน ซึ่งปกติทางโรงเรียนก็มีมาตรการในการดูแลอยู่แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายกันในโรงเรียน จะเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดและดูแลนักเรียนให้ใกล้ชิดมากขึ้น ส่วนนักเรียนที่กระทำผิดในครั้งนี้จะมีการลงโทษตามกฎระเบียบของทางโรงเรียน ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับทางตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง

กทม. 13 ก.ย.-ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด จนท.อพยพผู้พักอาศัย ใช้เวลา 20 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้ สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 13 ก.ย.68 ร.ต.ท.สิทธิชัย ขัดแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ใกล้เคียงโรงแรมไชน่าเวิลด์ ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยภูเขาทอง ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น ตลาดพาหุรัด ศูนย์ค้าผ้าและเครื่องประดับ พบมีกลุ่มควันจำนวนมาก บริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลืออพยพผู้พักอาศัยติดค้างอยู่ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 1 ภายในร้านประกอบกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พบมีแสงเพลิงไหม้ จึงใช้น้ำฉีดทำการดับประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบลง พื้นที่เสียหายประมาณ 24 ตารางเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง สถานที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]