เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 10 ก.พ. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ สร้างความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ หลังจากเผยว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม อีกร้อยละ 25 และจะเก็บภาษีตอบโต้คู่ค้า
ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่ง ขณะเดินทางไปชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล หรือซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 59 เมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ว่าจะประกาศในวันนี้เรื่องขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดที่นำเข้าสหรัฐ อีกร้อยละ 25 จากอัตราภาษีปัจจุบัน และในวันอังคารหรือวันพุธ จะประกาศเก็บภาษีตอบโต้ให้เท่ากับที่ถูกคู่ค้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ โดยให้มีผลทันที
ประธานาธิบดีทรัมป์เคยขึ้นภาษีร้อยละ 25 กับเหล็กนำเข้า และร้อยละ 10 กับอะลูมิเนียมนำเข้า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ต่อมาได้ยกเว้นไม่เก็บภาษีกับคู่ค้าหลายประเทศ เช่น แคนาดา เม็กซิโก บราซิล
ข้อมูลของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าอเมริกัน ระบุว่า สหรัฐนำเข้าเหล็กมากที่สุดจากแคนาดา บราซิล และเม็กซิโก รองลงมาคือ เกาหลีใต้ และเวียดนาม ขณะที่นำเข้าอะลูมิเนียมมากที่สุดจากแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 79 ของปริมาณการนำเข้าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวด้วยว่า ในวันอังคารหรือวันพุธนี้จะแถลงรายละเอียดแผนการเก็บภาษีตอบโต้คู่ค้า ตามที่เปิดเผยครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ว่า ต้องการให้ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติต่อสหรัฐอย่างเท่าเทียม นายทรัมป์เคยพูดมานานในเรื่องที่สหภาพยุโรป หรืออียู (EU) เก็บภาษียานยนต์นำเข้าจากสหรัฐ ในอัตราร้อยละ 10 ว่าสูงเกินไป เมื่อเทียบกับที่สหรัฐเก็บจากอียู เพียงร้อยละ 2.5 ข้อมูลขององค์การการค้าโลก ระบุว่าสหรัฐ มีอัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.2 ขณะที่อินเดียร้อยละ 12 บราซิล ร้อยละ 6.7 เวียดนาม ร้อยละ 5.1 และอียู ร้อยละ 2.7.-814.-สำนักข่าวไทย