หุ้นร่วงอีก ทองนิวไฮ กังวล “ทรัมป์” เรียกเก็บภาษี

กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – ราคาทองคำทำนิวไฮ หุ้นไทยร่วงอีก กังวลผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจีน-สหรัฐ ตอบโต้ขึ้นภาษี

ราคาทองคำในไทย วันนี้ (10 ก.พ.) สร้างสถิติสูงสุด โดยเมื่อเวลา 14.42 นาที สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำแท่งขายออก บาทลด 46,400 บาท ทองรูปพรรณ 46,900 บาท บนฐานทองคำเอเชีย 2,894 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ราคานิวไฮ) ค่าเงินบาท 33.87 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ ราคาเปลี่ยนแปลงแล้ว 9 ครั้ง ปรับเพิ่มจากวานนี้ บาทละ 950 บาท

ในขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปิดตลาด 7 ก.พ.ราคาส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,887.60 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ นับว่าได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 จากสงครามการค้า จีน-สหรัฐฯ นักลงทุน หันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

บทวิเคราะห์จาก บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ภาพรวมความเคลื่อนไหวราคาทองที่ผ่านมา ในสัปดาห์ก่อน ราคาทองคำทำ All-time high จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจีนตอบโต้สหรัฐกลับ โดยประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ขณะที่สงครามการค้าอาจขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ และออกประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศในวันนี้ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 3.73 ตันในสัปดาห์ก่อน

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% ยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีการทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง และราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ซึ่งบ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อาจทยอยขายทำกำไรบางส่วน เพราะราคาทองคำแท่งเข้าสู่ Overbought ให้ระวังการปรับฐานเกิดขึ้น

ด้านตลาดหุ้นไทย เวลา 15.05 น. ดัชนีลดลง 17.49 จุด เคลื่อนไหวที่ 1,264 จุด ตลาดกังวล กรณี ทรัมป์ จะเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม จากทุกประเทศ นักลงทุนไทยขาดความเชื่อมั่น เลือกอยู่ในโหมดระมัดระวัง นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุดัชนีมาอยู่ในโซนบริเวณ 1,250 จุด เป็นโซนที่ตลาดเริ่มตั้งหลักได้ ที่มี P/E Forword ที่ 13 เท่า นอกจากนี้ขึ้นกับผลประกอบการของ บจ.หากฟื้นตัวก็คาดหวังระดับแนวต้าน 1,310-1,320 จุด เก็งกำไร 50-60 จุดคาดว่า ตลาดไม่น่าจะลงต่ำไปกว่าระดับ 1,252.26 จุดที่เป็นจุดต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี 3 เดือน. -511- สำนักข่าวไทย