ทำเนียบ 4 ก.พ.-“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความชัดเจนในการระงับการจ่ายไฟฟ้า บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาว่า การทำสัญญาการขายไฟฟ้าเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 และ 2537 ซึ่งสามารถขายไฟฟ้าตามแนวชายแดนได้ โดยการทำสัญญาขายไฟฟ้าครั้งแรกได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ครั้งที่สองไม่ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. ดังนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. มีอำนาจ ตามระเบียบของ กฟภ.
จากนั้นนายภูมิธรรม ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านระเบียบของ กฟภ.ที่ระบุในเรื่องของการระงับการจ่ายไฟฟ้า หรือการยกเลิกการจำหน่ายไฟฟ้า กฟภ.สามารถดำเนินการได้เองตามสัญญา โดยไม่ต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม. อนุมัติ และไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานเพื่อทราบ ซึ่งสัญญาที่ กฟภ.ได้ไปเซ็นไว้เป็นสัญญาการซื้อขายกับบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ที่ได้ส่งมอบไฟฟ้าไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน สหภาพเมียนมา และยังปรากฏในหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 31 มกราคม 2568 ว่า ยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไปยังสหภาพเมียนมาอีก 4 ฉบับ รวมการซื้อขายไฟฟ้าทั้งหมดจำนวน 5 จุด ซึ่งหากดูตามสัญญาที่มีอยู่ในข้อ 12.1 ผู้ซื้อยินยอม ปฏิบัติตามข้อกำหนด และระเบียบของ กฟภ. ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับประชาชน ทั้งที่บังคับใช้ในปัจจุบัน และในอนาคต เพราะฉะนั้นหากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญา ในข้อที่ 13 หรือปฏิบัติผิดเงื่อนไขในสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ซื้อจะยินยอมให้ กฟภ. งดจ่ายไฟฟ้า หรือบอกยกเลิกสัญญาได้ ซึ่งตรงนี้มีอำนาจที่จะดำเนินการได้
ทั้งนี้ในกรณีที่ กฟภ. ไม่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าแก่ผู้ซื้อได้ เช่น การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า, ความจำเป็นเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย, ความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนผู้ซื้อกระทำการใด ๆ อันมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ กฟภ. อาจจะงดจ่ายพลังงานไฟฟ้า ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ซึ่งผู้ซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ได้ โดยเป็นไปตามระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ พ.ศ.2562 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
นอกจากนี้เท่าที่ดูในข้อ 51.1.1 กฟภ.สามารถงดจ่ายไฟฟ้าได้ หากพิจารณาเห็นว่า การจ่ายไฟฟ้านั้นส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ เห็นว่าการใช้ไฟฟ้า ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศขนาดนี้ ถือว่า มีปัญหาหรือยัง เพราะถ้าดูจากข้อมูลกรณีของแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ มีคนไทยถูกหลอกเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่า เป็นปัญหาของความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ ที่ครอบคลุมความมั่นคงในหลายมิติ รวมทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ดังนั้นหากพบข้อมูลว่า ผู้ซื้อไฟฟ้าจาก กฟภ. นำไฟฟ้าไปจำหน่ายให้กับแก๊วคอลเซนเตอร์นั้น กฟภ. ก็ต้องใช้สิทธิตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายไฟฟ้าให้น้อยลง หรือระงับการจ่ายไฟฟ้าได้
นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า เรื่องนี้ตนเองไม่สบายใจที่มีการโยนกันไปโยนกันมา ที่บอกว่า หากไม่สั่งการมาก็จะดำเนินการไม่ได้ อันนี้ก็บอกไม่รู้ ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ทั้ง ๆ ที่พอจะมีข้อมูลสืบทราบว่า มีปัญหา โดยเมื่อวานนี้ตนเองก็สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติ ให้เรียก กฟภ. มาพูดคุย รวมไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ, ตำรวจ และทหาร ที่ได้ข้อสรุปยืนยันว่า เรื่องนี้กระทบต่อความมั่นคง และ สมช. ก็กำลังทำหนังสือแจ้งไปที่ กฟภ.
นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า เรื่องนี้มีปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคง และ สมช. ได้ชี้ข้อมูลแล้ว ซึ่งความเป็นจริงไม่ต้องรอให้ สมช.ชี้ข้อมูล เพราะ กฟภ. หากเห็นว่า มีผลกระทบ และตนเองก็ได้รับรายงานว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นผิดปกติ ซึ่งการพบข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ก็ควรจะเข้าไปดำเนินการ ไม่ใช่จะสนใจที่จะขายไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นตนเองคิดว่า การค่อย ๆ ตัดไฟฟ้าอาจจะช้าเกินไป เพราะมีปัญหารุนแรงแล้ว
นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้ตนเองจะสั่งการให้แจ้งกับ กฟภ. ว่า ต้องไปดำเนินการเพื่อตัดไฟฟ้าทันที เพราะเรื่องนี้รุนแรง ไม่ใช่มารอโยกไปโยกมา เหมือนที่กำลังเกิดขึ้น ให้แจ้ง กฟภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากผู้บังคับงานหน่วยไหน หรือส่วนไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ตนจะสั่งให้ยืมตัวมาช่วยราชการ
นายภูมิธรรม ยังย้ำอีกว่า เรื่องนี้ไม่ต้องเข้าที่ประชุม ครม. หากยังดำเนินการล่าช้า และไม่เร่งปฏิบัติ ตนจะยืมตัวมาช่วยราชการ จึงขอให้ไปพิจารณาว่าจะจัดการอย่างไร และจะจัดการแค่ไหน
ส่วนกรณีที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเข้าพบตัวเองในวันนี้ ก็คาดว่า น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน และในวันพฤหัสนี้ตนจะลงพื้นที่ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะไปเจอกับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เพราะอยากไปฟังข้อเท็จจริงว่า เป็นอย่างไร แต่การลงพื้นที่ไม่ได้ไปแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ยังไปดูเรื่องของการป้องกันชายแดนด้วย และเยี่ยมหน่วยกำลังพลที่อยู่ชายแดน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ตนเองดูแลอยู่ ถ้าประสานเข้าไปได้กลับเมียนมา ตนก็จะเข้าไปดู
เมื่อจะตัดไฟฟ้าเฉพาะเมืองมีปัญหาหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ให้ไปดูในรายละเอียด ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ตนพูดหลักการให้ฟังเลยว่า ถ้าพบ หรือมีอยู่จริงก็สามารถดำเนินการได้ ถ้าคนในสังคมรับรู้ว่า ตรงนี้เป็นอย่างไร แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่รับรู้ก็ต้องมีการตรวจสอบกัน
เมื่อถามย้ำว่า สามารถดำเนินการตัดไฟฟ้าได้ทันทีเลยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เดี๋ยวรอคำสั่งตนออก ผมสามารถตัดเองได้ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ไม่ต้องรอให้ถึง ครม. ขอให้ดำเนินการทันที ให้เห็นผลเกิดเป็นรูปธรรม ที่มั่นใจได้ว่า เรื่องนี้ เราได้มีการดำเนินการ และคงต้องคุยกับกระทรวงการต่างประเทศว่า ต้องทำหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องรอให้กระทรวงการต่างประเทศไปเจรจาก่อน เพราะเมื่อสั่งไปแล้วก็ไปดูการปฏิบัติว่า ใครทำตามหน้าที่ไม่ปล่อยปะละเลย ก็โอเค ใครที่รู้สึกว่า ยังต้องรอโน่นรอนี่ ก็ค่อยใช้มาตรการที่เด็ดขาด
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาการไฟฟ้าก็มีอำนาจในการตัด มองว่ามีปัจจัยอะไรถึงไม่ดำเนินการ นายภูมิธรรมระบุว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้ว และสั่งการแล้วให้ดำเนินการ หากไม่ดำเนินการก็มีปัญหา ไม่ต้องถามว่าเป็นเพราะอะไร อย่ามัวแต่สนใจขายไฟฟ้าอย่างเดียว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดความเสียหาย มากกว่าไฟฟ้าที่ขายได้ พร้อมระบุอีกว่า ไม่มีนอกไม่มีใน ขอให้ไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ
เมื่อถามว่า หากยังพบว่า ยังมีการปล่อยเกียร์ว่างนอกจากจะให้ยืมตัวมาช่วยราชการแล้ว จะมีการดำเนินการเด็ดขาดอะไรอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การช่วยราชการก็ถือว่า หนักแล้ว ส่วนอย่างอื่นจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวไปดูกัน พร้อมย้ำว่า เรื่องตัดไฟฟ้าขอให้ไปดูตามความเป็นจริง ตนสั่งการว่า เรื่องนี้ชัดเจน และมีปัญหา เมื่อทราบแล้วก็ต้องดำเนินการตามมาตรการให้เห็นชัดเจนว่า พยายามทำอะไรที่จะแก้ไขปัญหาไม่ใช่บอกว่า อันนี้ไม่ได้ ต้องรอคนนั้นคนนี้ ต้องจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเกี่ยวเรื่องไหนก็ต้องจัดการเรื่องนั้น
ส่วนที่เมืองเมียวดีมีการซื้อไฟฟ้าจากไทยถึง 90% หากตัดไฟฟ้าจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เขาต้องควบคุมพื้นที่ของเขา หากปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้น เป็นพื้นที่ที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ เขาก็ต้องรับผิดชอบด้วยต้องอย่างนี้ พวกคุณต้องจัดการทันที ต้องจัดการสิ่งเรานั้นให้จบ หากไม่จบก็ต้องรับผล เราไม่ใช่แม่พระใจดี ที่ส่งไปแล้ว ทำอะไรกับเรา แต่เรานิ่งเฉย.-312.-สำนักข่าวไทย