“ภูมิธรรม” แจงปมตัดไฟประเทศเพื่อนบ้าน ทำตามข้อเท็จจริง

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 3 ก.พ. – “ภูมิธรรม” เตรียมถกผู้ช่วย รมต.กระทรวงความมั่นคงและสาธารณะจีน พรุ่งนี้ แก้ปมแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ ส่วนกรณีตัดไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน ทำตามข้อเท็จจริง หลังโซเชียลทวงถามตัดไฟกี่โมง


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวถึงผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เกี่ยวกับปัญหาการตัดไฟของประเทศเพื่อนบ้าน ว่า เมื่อวานได้สั่งการให้เลขาฯ สมช. เรียกประชุมในระดับปฏิบัติการ และได้เชิญการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาพูดคุย โดยเรื่องนี้ไม่อยากให้โยนไปโยนมา เพราะทั้งกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่างๆ เป็นหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด ซึ่งมี สมช. เป็นคนกลางประสาน โดยเรื่องนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2566 ได้มีการตัดไฟไปแล้ว 2 ส่วน ที่เมืองชเวโก๊กโก่ และ KK park และเมื่อเช้านี้ได้มีการสั่งให้ประชุม ซึ่งผลออกมาเป็นเอกภาพ ไม่โยนไปโยนมา

สิ่งที่สำคัญคือ ให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด โดยจะให้มีการประสานงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ สมช. และกระทรวงมหาดไทย โดยจะให้กระทรวงการต่างประเทศ ติดต่อประสานงานกับทางเมียนมา เพื่อให้ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก คือ ให้ทางการเมียนมาดำเนินการพูดคุยกับบริษัทเอกชนในพื้นที่ว่า ถ้ายังมีปัญหาแล้วไม่ดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้แจ้งกับทางการเมียนมา ในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ เพื่อให้ไปดำเนินการแก้ไขต่อ ซึ่งไทยอาจจะต้องดำเนินการตัดไฟครึ่งหนึ่ง เพื่อให้กระแสไฟตกในจุดที่ยังใช้งานอยู่


นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีการหารือมาหลายวันแล้ว และมีข้อเสนอแนะจากที่ปรึกษา บ้านพิษณุโลก จนเป็นที่มาของการประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) ช่วงบ่าย นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะประชาชนจีน จะเดินทางมาพบและพูดคุยกับตนเอง ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร ซึ่งทางจีนเองก็คงมีข้อเสนอแนะ แต่เท่าที่ดูเขาก็เคารพในอธิปไตยของไทย ยังไม่ได้รู้สึกแบบที่เป็นข่าว และจะถามไทยในกระบวนการการทำงานร่วมกันต่อไป

ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ (6 ก.พ.) ตนเองจะเดินทางลงพื้นที่จริง ที่จังหวัดตาก และจะไปเยี่ยมกองกำลังราชมนู ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ รวมถึงดูเรื่องของการซีลพื้นที่ชายแดน 2 ชั้น ตามนโยบายของรัฐบาล หลังจากนั้นจะมีการสั่งการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า รูปธรรมของการตัดไฟนั้น จะมุ่งไปที่ไม่ให้เกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์ แต่ประชาชนทั่วไปที่ยังใช้บริการอยู่จะต้องให้ในเรื่องของมนุษยธรรมหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นเรื่องที่เราประสานงานมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าต้องช่วยกัน และเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และบางจุดมีศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน โรงพยาบาล หากในข้อเท็จจริงมีส่วนเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ เราก็ต้องมีส่วนช่วยที่จะส่งเสริม และเป็นไปตามกฎหมายที่อนุญาตให้มีการซื้อขาย รวมทั้งมีการค้าขายกันได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกับที่ลาวขายให้กับสิงคโปร์ ลาวขายให้ไทย ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผิดกฎหมาย ข้ามพรมแดน


ส่วนจะมีมาตรการสร้างความมั่นใจอย่างไร ว่าไฟที่เราส่งไปจะถูกพ่วงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องถามว่าเป็นอย่างไร เพราะเราดำเนินการสำรวจอยู่ ขณะที่กำลังชายแดนก็ตรวจสอบอยู่ด้วย ประชาชนแถวนั้นรู้หมด ดังนั้น ตรงนี้ก็จะมีมาตรการในการจัดการ แต่หัวใจหลักตอนนี้อยู่ที่เมืองชเวโก๊กโก่ และ KK Park เราก็ยังต้องพูดคุยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยอย่างเดียว และเมื่อถามว่า จะถือโอกาสนี้จัดการเครือข่ายส่วยต่างๆ ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ผมจะทำทั้งหมด ตามมาตรการที่พูดไปแล้ว

ส่วนมาตรการตัดไฟครึ่งหนึ่งจะเริ่มเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดหลังจากที่ตนเองกลับมาจากจังหวัดตากก่อน และการตัดไฟไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี สมช. สามารถดำเนินการได้เลย เพราะมีเรื่องที่ผิดกฎหมายทำลายความมั่นคง แต่จริงๆ เรื่องแบบนี้ หน่วยงานเฉพาะหน้าพบเจอก็สามารถดำเนินการได้ หรือทำเรื่องมาขอก็ได้ ไม่ต้องรอให้คนสั่ง เพราะเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติ ซึ่งรู้ดีอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า เราไม่มีหน้าที่ทำตามกระแส หลังถูกทวงถามว่าจะตัดไฟกี่โมง แต่เรามีหน้าที่ทำตามข้อเท็จจริง และตามกฎหมาย

ส่วนกรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก หลังจากนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งย้ายผู้กำกับ 3 สถานีตำรวจ ในพื้นที่จังหวัดตาก นายภูมิธรรม ตอบกลับทันทีว่า มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ยังไม่รู้เลย.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยัน ไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุนมาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้วนั้น นายอนุทิน ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน แต่เมื่อถึงจุดที่เราต้องรักษาผลประโยชน์ […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]