กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – เงินบาทแข็งค่าในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ หลุดแนวต้าน 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และแรงหนุนจากทองคำ ตลาดจับตาการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 และถ้อยแถลงประธาน ECB
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันที่ผ่านมาที่ระดับ 34.11 บาทต่อดอลลาร์ จากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้านโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ลงบ้าง นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และจังหวะปรับตัวลดลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี โดยตลาดรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเฉพาะประธาน ECB ในช่วงราว 22.15 น. ตามเวลาประเทศไทย เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดรอติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 อย่างใกล้ชิด พร้อมรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ ที่ระดับ 33.80-34.10 บาท/ดอลลาร์ โดยประเมินว่าเงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้น หรืออย่างน้อยก็อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways หากได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ รวมถึงแรงซื้อสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ หลังเริ่มเห็นการทยอยกลับเข้าซื้อบอนด์ไทย โดยเฉพาะบอนด์ระยะยาวจากบรรดานักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติม ขณะที่หุ้นไทยนั้น นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิบ้าง แต่ยังไม่มากนัก เมื่อเทียบกับแรงซื้อสุทธิบอนด์ไทย
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ (นับตั้งแต่ 13 ธ.ค.67) ในช่วงเช้าวันนี้ (09.58 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับแรงหนุนของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ ๆ เนื่องจากตลาดยังคงรอความชัดเจนของแนวนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ กับคู่ค้าหลายๆ ประเทศ รวมถึงจีน หลังจากที่ทรัมป์ยังไม่ประกาศปรับขึ้นภาษีในวงกว้างทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.80-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะยังอยู่ที่สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก การเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. ของสหรัฐ.-516-สำนักข่าวไทย