SCB FM ประเมินเงินบาทยังอ่อนค่าครึ่งปีแรก

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – SCB FM มองเงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อ-นโยบายการเงินไทยผ่อนคลาย ทำให้เงินบาทยังอ่อนค่าในช่วงครึ่งปีแรก อาจแตะระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีโอกาสกลับมาแข็งค่าครึ่งปีหลัง หากมีเงินทุนไหลเข้า มองกรอบ 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
 
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่า Theme ตลาดการเงินโลกในปีนี้น่าจะยังถูกนำโดยสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจหลักอื่น ขณะที่นโยบายการเงินจะยังค่อนข้างตึงตัวจากการที่ Fed จะลดดอกเบี้ยช้าลง จึงทำให้นักลงทุนจะยังถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ดี เงินยูโรและเงินหยวนจะยังอ่อนค่าต่อในปีนี้ จากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะยังอ่อนแอ และความเสี่ยงจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าที่จะยิ่งทำให้การฟื้นตัวช้าลง ทั้งนี้ เงินเยนจะเป็นสกุลเงินหลักที่กลับมาแข็งค่าได้ในช่วงไตรมาสที่สอง หากค่าแรงและเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับสูงตามที่คาด ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กลับมาขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาสที่สองได้ สำหรับเงินบาทนั้น มองว่าในช่วงครึ่งแรกของปีมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และนโยบายการเงินไทยที่ผ่อนคลายขึ้น โดยมองว่ามีโอกาสแตะระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดีเงินบาทอาจเริ่มกลับมาแข็งค่าได้ในครึ่งปีหลัง หากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะทำให้เงินไหลออกจากสหรัฐฯ ได้ ประกอบกับ Valuation ของเงินดอลลาร์ที่สูงมากแล้ว ทำให้มีโอกาสกลับมาอ่อนค่า


นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ สินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐน่าจะมีผลตอบแทนเป็นบวกอีกได้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวดีกว่าประเทศหลักอื่น สะท้อนจากเลขเศรษฐกิจ ทั้งตลาดแรงงาน และ PMI ที่ออกมาดีกว่าคาดทำให้ Fed น่าจะลดดอกเบี้ยช้าลง โดยคาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีกเพียง 50 bps ในปีนี้ สอดคล้องกับใน Dot plot ล่าสุดของ Fed และที่ตลาด Price-in ซึ่งจะน้อยกว่าในปี 2567 ที่ Fed ลดดอกเบี้ยถึง 100 bps ดัชนีเงินดอลลาร์น่าจะยังแข็งค่าต่อได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้เงินจะแข็งค่าขึ้นมากแล้วในปีก่อน เนื่องจากตลาดอาจยังอยู่ในโหมด Wait-and-see ซึ่งจะหนุนให้เงินดอลลาร์ต่อได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลัง เงินดอลลาร์สหรัฐอาจกลับมาอ่อนค่าจาก Valuation ที่สูงมากแล้ว และเงินทุนที่อาจไหลออกจากสหรัฐฯ สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นายแพททริกมองว่า Treasury yields ปรับลดลงอีกเล็กน้อย ตามการลดดอกเบี้ยของ Fed และ Curve มีแนวโน้มชัน (Steepen) ขึ้น จาก Yields ระยะสั้นที่ลดลงมากกว่า ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้จะปรับสูงขึ้นมามากในปีที่แล้ว แต่ยังมองว่ามีโอกาสปรับสูงขึ้นได้อีกเล็กน้อย นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าจะได้มีการใช้ AI มากขึ้น (Adoption) และกลุ่มอื่น ๆ ที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการดูแล (Regulation) ที่มีแนวโน้มเข้มงวดน้อยลง เช่น กลุ่มธุรกิจการเงิน

เงินยูโรและเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องในปีนี้ โดยเงินยูโรอาจอ่อนค่าจากเศรษฐกิจยุโรปที่น่าจะยังอ่อนแอจากภาคการผลิตที่หดตัว การแข่งขันจากประเทศจีนที่สูงขึ้น มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่อาจลดลง ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ และความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้ ECB จะยังลดดอกเบี้ยลงแรงได้ โดยนายแพททริกมองว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยอีกต่อเนื่องถึง 125 bps ในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้เงินยูโรอาจลงไปใกล้ระดับ 1.00 ยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี สำหรับเงินหยวน จะยังอ่อนค่าลงต่อ แม้ทางการจีนน่าจะออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม โดยคาดว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ Required reserve ratio ลง อีกทั้ง ทางการอาจใช้มาตรการที่เน้นกระตุ้นการบริโภคมากขึ้น โดยได้ตั้งเป้าขาดดุลการคลังสูงขึ้น และคาดว่าจะออกพันธบัตรรัฐบาลกลางและท้องถิ่นเพิ่มเพื่อสนับสนุนโครงการต่างมากขึ้น อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนน่าจะยังอ่อนแอจากความเสี่ยงหลายด้าน อีกทั้ง ทางการจีนอาจตั้งใจปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าขึ้น เพื่อเป็น Cushion ต่อการส่งออกที่มีแนวโน้มแย่ลง จึงมองว่า เงินหยวนมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 7.50 หยวนต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้


เงินเยนอาจเป็นเพียงสกุลหลักเดียวที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงไตรมาสสอง จากการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ หากเงินเฟ้อและค่าแรงญี่ปุ่นยังสูงตามที่คาด นอกจากนี้ มาตรการของ Trump อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นจำกัด เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่กว่า 39 ล้านล้านเยน เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ รวมถึงคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการขาดแคลนแรงงาน ทั้งนี้ ในระยะสั้นหรือช่วงไตรมาสแรก เงินเยนน่าจะยังอ่อนค่าจากดัชนีเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าตามนโยบาย Fed ที่จะยังค่อนข้างตึงตัว (Hawkish) และกว่าที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยได้อาจต้องรอถึงเดือน เม.ย. เพื่อรอดูแนวโน้มการขึ้นค่าแรง(Shunto) ในประเทศ

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงครึ่งแรกของปี จากดอลลาร์ที่ยังแข็งค่า และนโยบายการเงินไทยที่ผ่อนคลายขึ้น โดยแรงกดดันด้านอ่อนค่าอาจมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าตามตีม US Exceptionalism ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าประเทศหลักอื่น อีกทั้ง เงินบาทจะยังเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าจากสกุลเงินอื่น เช่น เงินยูโรและเงินหยวน ทำให้บาทอ่อนค่าตาม สำหรับปัจจัยในประเทศที่จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าต่อได้มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่โตชะลอลงตามการบริโภคและส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอ จึงมองว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าไปแตะระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ภายในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี มองว่ามีโอกาสที่เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะทำให้เงินไหลออกจากสหรัฐฯ ได้ ประกอบกับ Valuation ของเงินดอลลาร์ที่สูงมากแล้ว อีกทั้ง มองว่าราคาทองอาจปรับสูงขึ้นได้ต่อ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมองว่าเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าที่กรอบ 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]