กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – บล.เอเซียพลัส ชี้ “ทรัมป์” ประกาศนโยบาย ไม่รุนแรงตามคาดการณ์ เชื่อหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว แต่ยังจับตานโยบายกำแพงภาษี ที่จะยังกระทบไทย มองฟันด์โฟลว์มีโอกาสไหลกลับเข้าไทย หากดอลลาร์อ่อนค่าลง
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม กรรมการบริหาร บล.เอเซียพลัส ให้สัมภาษณ์ในรายการนาทีลงทุน ช่อง 9 MCOT HD ถึงการแถลงนโยบายของนายโดนัล ทรัมป์ หลังเข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยว่า ก่อนการเข้ารับตำแหน่งตลาดหุ้นไทยตอบสนองรุนแรงมาก จนทำให้การประเมินมูลค่าหุ้น (Varuation) ถูกมาก เช่น อัตราส่วนราคาตลาดของหุ้น ( P/BV) เหลือ 1.34 เท่า เท่ากับค่าผันผวนของการดำเนินงาน -1.2 Standard Deviation (SD) ซึ่งภาวะที่ต่ำกว่า 1 SD ถือเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติ ทั้งนี้ หุ้นใน SET100 ที่ P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า มีอยู่ 40 ตัว ถือว่าต่ำมาก ๆ ขณะที่เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ปรากฏว่าการแถลงนโยบาย ไม่ได้รุนแรงตามที่มีการคาดการณ์ เช่น ไม่ได้มีการลงนามปรับขึ้นภาษีสินค้าจากจีน และยังมีท่าทีอ่อนลงเรื่องการตั้งกำแพงภาษี รวมไปถึงอาจมีการตั้งหน่วยงานของรัฐบาลกลางเพื่อมีการศึกษาแนวทางปฏิบัติเรื่องตกลงการค้ากับจีน ขณะที่ยังมีท่าทีจะทำให้ราคาพลังงานสหรัฐลดลง โดยหันไปใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เชื่อว่าหุ้นไทยที่ตอบสนองเชิงลบไปในระดับลึกก่อนหน้า จึงมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้ แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ยังต้องติดตามต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นกำแพงภาษี เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่เกินดุลสหรัฐเป็นอันดับที่ 12 และจีดีพีของไทย พึ่งการส่งออกถึง 70%
อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนกลับไปครั้งที่ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งปรานาธิบดีสมัยแรก พบว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงทันที หากเกิดเหตุการณ์เดียวกัน แสดงว่าครั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจอ่อนตัวลงเช่นกัน เมื่อค่าเงินบาทแข็งขึ้นและ Varuation ไม่แพง ดังนั้นจึงยังมีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์จะไหลกลับเข้ามาในไทย แต่เป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
สำหรับคำแนะนำการลงทุนหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ มองหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการของรัฐ เช่น กลุ่มค้าปลีก และหุ้นปันผล เช่น กลุ่มธนาคาร.-516-สำนักข่าวไทย