บุกยื่นหนังสือถึงนายกฯ​ จี้ปมเวชระเบียน ‘ทักษิณ’

ทำเนียบรัฐบาล 21 ม.ค.- คปท.ระดม 4 กลุ่ม เดินหน้าเคลื่อนไหว ยื่นหนังสือจี้เวชระเบียน ‘ทักษิณ’ ถึง ‘นายกฯ’ ซัดตำรวจ-แพทย์ ส่อปกป้อง ‘ผู้ป่วยเทวดา’


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม และอดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มายื่นหนังสือเพื่อแสดงจุดยืนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ รวมทั้งขอเวชระเบียนของนายทักษิณ เนื่องจากนายทักษิณหลีกเลี่ยงในการดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย ตั้งแต่เดินทางกลับเข้ามารับโทษในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566

โดยมีผู้ไปร่วมแสดงจุดยืน เช่น นายพิชิต ไชยมงคล นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ น.ส.เสน่ห์ หงษ์ทอง นางนีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายเจษฎ์ โทณะวณิก นายนิติธร ล้ำเหลือ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว และนายนัสเซอร์ ยีหมะ


นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวก่อนการยื่นหนังสือว่า นายทักษิณ ระบุว่า จะอยู่ยาวอีก 40 ปี แต่ช่วงที่กลับเข้ามารับโทษ ต้องอยู่ในกระบวนการ 180 วัน แต่ดันมีอาการป่วยวิกฤษ ป่วยใกล้ตาย ไม่สามารถอยู่กรมราชทัณฑ์ได้ ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจชั้น 14 ฉะนั้นวันนี้เราจึงถามถึงกระบวนการทางการแพทย์ว่า 180 วันที่นายทักษิณป่วยวิกฤต คณะแพทย์ชุดหนึ่งได้ทำเอกสาร ป่วยวิกฤต 180 วัน อาการของคนป่วย จะไม่ใช่อาการแบบนายทักษิณ คนปัจจุบันแน่นอน

นายพิชิต กล่าวว่า เราเดินทางไปให้กำลังใจสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในแห่งชาติ โดยบอกให้ยึดกระบวนการยุติธรรม เดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่ง ป.ป.ช.ทำหนังสือขอ เวชระเบียน ของนายทักษิณ ไปที่ รพ.ตำรวจ ตามคำร้องที่ คปท. ไปร้องไว้ ซึ่งเลขา ป.ป.ช. ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ให้เวชระเบียนมา ใบเอกสารทางการแพทย์อื่น มีการสอบถามและไต่สวนมาแล้วเรียบร้อย

นายพิชิต กล่าวว่า เราไปขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดกำกับควบคุม รพ.ตำรวจ ว่าต้องสั่งให้รพ.ตำรวจ ที่อยู่ในสังกัดส่งหลักฐานทางคดี เนื่องจากตำรวจเป็นองค์กรที่พิสูจน์ทรัพย์ข้อเท็จจริง วันนี้หลักฐานสำคัญ คือ เวชระเบียน อยู่ในมือตำรวจ ตำรวจจัดเก็บหลักฐาน หรือ ทำลายหลักฐานเอง แล้วเป็นองค์กรที่ต้องผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม รวมทั้งต้องพิสูจน์เดินหน้าข้อเท็จจริง จึงต้องส่งเวชระเบียนไปให้กับ แพทยสภาภาย ในวันที่ 15 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา


นายพิชิต กล่าวว่า แพทยสภาที่ได้ดูแลเรื่องดังกล่าว ระบุมาว่า ได้เอกสารทางการแพทย์ในบางส่วน ส่วนเวชระเบียนไม่ได้เลย ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า รพ.ตำรวจ ไม่ได้ให้ความร่วมมือ ไม่ส่งเวชระเบียน จนทำให้วันนี้พวกตนมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาหาลูกของผู้ป่วยเทวดา เนื่องจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวของนายทักษิณ ต้องใช้ตำแหน่งในฐานะนายกฯ เพื่อคงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐนิติธรรมของประเทศไทย

ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า คนที่มีอำนาจสั่งการหน่วยงานต่าง ๆ มากที่สุด คือ น.ส.แพทองธาร จึงยื่นหนังสือให้สั่งการราชทัณฑ์แสดงเอกสารเวชระเบียน พร้อมให้หน่วยงานต่าง ๆ เช่น ป.ป.ช. แพทยสภา รวมถึงศาลยุติธรรม พิจารณากรณีดังกล่าวภายในอาทิตย์หน้า มิเช่นนั้น อาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นโดยทุจริต  

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า เวชระเบียนของผู้ป่วยคนเดียว ต้องอยู่ในไฟล์เดียวกัน อีกทั้งโรคที่นายทักษิณกล่าวอ้าง เช่น โรคหัวใจนั้น เป็นโรคเสื่อมสภาพตามอายุในผู้สูงอายุ ส่วนอาการแน่นหน้าอกและความดัน คลินิกทั่วไปก็สามารถรักษาได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากนายทักษิณกลัวเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เหตุใดถึงมีเพียงศัลยแพทย์ที่คอยดูแล นอกจากนี้ ตามหลักการ แพทย์ไม่ทำการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถให้ภาพความคมชัดสูง (เอ็มอาร์ไอ) ให้ผู้ป่วยวิกฤติ จึงมองว่าไม่ได้ป่วยวิกฤติและเป็นละครฉากหนึ่งเท่านั้น  

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า หลายคนตั้งคำถามกับตนว่าในแผ่นดินนี้ไม่มีใครจัดการความอหังการ์ของนายทักษิณได้ ตนมองว่าไม่มีอะไรแน่นอน “เพราะบางครั้งก็ส่งเชือกให้ฝั่งตรงข้ามผูกคอตาย แต่บางครั้งก็ชวนมากินไวน์ด้วยกัน ตั้งแต่บ้านเมืองนี้ไม่ตรงไปตรงมา หลังจากวันที่นายทักษิณกลับมายังประเทศไทย“

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันแรกที่นายทักษิณ ลงข้อความบนแอพพลิเคชั่น X (เอ็กซ์) บอกว่าขออนุญาตกลับบ้านมาเลี้ยงหลานเพราะแก่แล้ว หลายคนคงตั้งคำถามว่านายทักษิณได้ขออนุญาตใคร แต่ทันทีที่นายทักษิณลงเครื่อง ซึ่งเราก็เห็นถึงความไม่ปกติมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมาถึงประเทศไทย ตำรวจไม่มีการควบคุมตัว และไม่มีการคุมขังและอยู่ในเรือนจำไม่กี่ชั่วโมง กลับมีอาการป่วยขั้นวิกฤต และที่น่าสงสัยที่สุดคือ พยาบาลเป็นคนบอกว่าป่วยวิกฤติสะเอง ทั้งที่จริงควรจะเป็นหมอ

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะที่ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ที่ออกมาพูดถึงเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ และ รพ.ตำรวจ ที่เหมือนห้องรับแขก และตอนนี้หลายคนคงสงสัยในเรื่องของเวชชระเบียนที่ยากลำบากในการจะตอบ เพราะมันไม่มีความตรงไปตรงมา และตอนแรกที่นายทักษิณอ้างว่ามีการป่วยวิกฤตนั้น แต่ตอนนี้ กลับกลายมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีนายทักษิณ ได้มีการปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) ในนามพรรคเพื่อไทย โดยตอนหนึ่งได้ลั่นวาจาว่า “โกงพ่อมึงสิ ” ซึ่งตนมองว่านายทักษิณลืมไปว่าเคยมีการยื่นถวายฎีกากับพระเจ้าแผ่นดินเลยถูกบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการ ซึ่งนายทักษิณเคยมีการยอมรับว่าตนกระทำความผิดและมีการทุจริตคอรัปชั่นจริง ซึ่งได้พูดคำนี้กับพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้พูดกับประชาชน

นายจตุพร ยังกล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม หากองค์กรทำตามหน้าที่ ประชาชนคงไม่ต้องเดือดร้อนมาลงถนน แต่เมื่อไม่มีการทำหน้าที่ของหน่วยงานจริงๆ จึงเป็นหน้าที่ของพวกประชาชนคนไทย ที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการในเรื่องนี้ ทั้งนี้หากนายทักษิณป่วยปลอมจริง น.ส.แพทองธาร ก็จะเข้าข่ายการกระทำความผิดด้วย เพราะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางตำรวจก็กำกับดูแลในเรื่องของ รพ.ตำรวจ ตนจึงมองอีกว่า

“ถ้าคิดอยากจะหนีเหมือนพ่อ เหมือนอา ก็ทำกันต่อไป แต่ถ้าอยากจะอยู่แผ่นดินไทย ก็อย่าได้ทำเหมือนสิ่งที่เคยทำมา” นายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศบริเวณทำเนียบรัฐบาล ภายนอกอาคารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายสิบตำรวจ สายปราบปราม กองร้อยน้ำหวานหญิง มาดูแลความปลอดภัย และภายหลังจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้กล่าว ปราศรัยเสร็จ กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้เคลื่อนตัวไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาล ประตู 3 เพื่อทำการยื่นหนังสือพร้อมอ่านรายชื่อแถลงการณ์ ถึง น.ส.แพทองธาร ผ่าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง รับยื่นหนังสือ หลังจากนั้นกลุ่มแยกย้ายเดินทางกลับ .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง

รัฐสภา 18 ส.ค.-“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง ยันพร้อมตรวจสอบหากส่งเรื่อง-หลักฐานร้องมา ส่วนปัญหาองค์ประชุม โยนวิปรัฐคุมเสียงปริ่มน้ำ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำทำให้ประธานต้องชิงปิดประชุมหลายครั้งเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ว่าเสียงของรัฐบาลเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะทำให้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเพื่อให้ประชุมได้ ซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ ดังนั้นหากประสานงานกันให้ดีและทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง สภาก็คงดำเนินการเดินหน้าไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็เช่นกัน หากมีการลงมติที่มีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็คิดว่าหากทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นองค์ประชุมและลงคะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการปิดประชุมก่อนเนื่องจากเสียงไม่พอนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องปิดประชุม เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งก็ต้องดูกันไป โดยในช่วงสัปดาห์ต่อไปก็มีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าแม้องค์ประชุมมาก หากสมาชิกไม่มาอยู่ในห้องประชุมให้ครบองค์ประชุมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเช่นกัน แต่ถ้าองค์ประชุมปริ่มน้ำ แต่มาครบเกินกึ่งหนึ่งก็ดำเนินการไปได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่าน มติกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดูแลสมาชิกให้เกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ให้เกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงกรณีที่มี สส.ออกมาเปิดเผยว่า มีการเสนอให้เงิน 10 กิโล เพื่อแลกกับการลงมติ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ และร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า […]

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC ทภ.2 เป็น 27 ส.ค.นี้

กทม. 18 ส.ค.-กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็นวันที่ 27 ส.ค.นี้ เตรียมนัดหารือที่ช่องสะงำ ศบ.ทก. แจ้งความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่ากองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิมวันที่ 21 ส.ค.68 เป็นวันที่ 27 ส.ค.68 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้1.วันที่ 25-26 ส.ค.68 : ประชุมกองเลขาฯ2.วันที่ 27 […]

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย