บุกยื่นหนังสือถึงนายกฯ​ จี้ปมเวชระเบียน ‘ทักษิณ’

ทำเนียบรัฐบาล 21 ม.ค.- คปท.ระดม 4 กลุ่ม เดินหน้าเคลื่อนไหว ยื่นหนังสือจี้เวชระเบียน ‘ทักษิณ’ ถึง ‘นายกฯ’ ซัดตำรวจ-แพทย์ ส่อปกป้อง ‘ผู้ป่วยเทวดา’


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม และอดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มายื่นหนังสือเพื่อแสดงจุดยืนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ รวมทั้งขอเวชระเบียนของนายทักษิณ เนื่องจากนายทักษิณหลีกเลี่ยงในการดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย ตั้งแต่เดินทางกลับเข้ามารับโทษในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566

โดยมีผู้ไปร่วมแสดงจุดยืน เช่น นายพิชิต ไชยมงคล นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ น.ส.เสน่ห์ หงษ์ทอง นางนีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายเจษฎ์ โทณะวณิก นายนิติธร ล้ำเหลือ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว และนายนัสเซอร์ ยีหมะ


นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวก่อนการยื่นหนังสือว่า นายทักษิณ ระบุว่า จะอยู่ยาวอีก 40 ปี แต่ช่วงที่กลับเข้ามารับโทษ ต้องอยู่ในกระบวนการ 180 วัน แต่ดันมีอาการป่วยวิกฤษ ป่วยใกล้ตาย ไม่สามารถอยู่กรมราชทัณฑ์ได้ ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจชั้น 14 ฉะนั้นวันนี้เราจึงถามถึงกระบวนการทางการแพทย์ว่า 180 วันที่นายทักษิณป่วยวิกฤต คณะแพทย์ชุดหนึ่งได้ทำเอกสาร ป่วยวิกฤต 180 วัน อาการของคนป่วย จะไม่ใช่อาการแบบนายทักษิณ คนปัจจุบันแน่นอน

นายพิชิต กล่าวว่า เราเดินทางไปให้กำลังใจสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในแห่งชาติ โดยบอกให้ยึดกระบวนการยุติธรรม เดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่ง ป.ป.ช.ทำหนังสือขอ เวชระเบียน ของนายทักษิณ ไปที่ รพ.ตำรวจ ตามคำร้องที่ คปท. ไปร้องไว้ ซึ่งเลขา ป.ป.ช. ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ให้เวชระเบียนมา ใบเอกสารทางการแพทย์อื่น มีการสอบถามและไต่สวนมาแล้วเรียบร้อย

นายพิชิต กล่าวว่า เราไปขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดกำกับควบคุม รพ.ตำรวจ ว่าต้องสั่งให้รพ.ตำรวจ ที่อยู่ในสังกัดส่งหลักฐานทางคดี เนื่องจากตำรวจเป็นองค์กรที่พิสูจน์ทรัพย์ข้อเท็จจริง วันนี้หลักฐานสำคัญ คือ เวชระเบียน อยู่ในมือตำรวจ ตำรวจจัดเก็บหลักฐาน หรือ ทำลายหลักฐานเอง แล้วเป็นองค์กรที่ต้องผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม รวมทั้งต้องพิสูจน์เดินหน้าข้อเท็จจริง จึงต้องส่งเวชระเบียนไปให้กับ แพทยสภาภาย ในวันที่ 15 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา


นายพิชิต กล่าวว่า แพทยสภาที่ได้ดูแลเรื่องดังกล่าว ระบุมาว่า ได้เอกสารทางการแพทย์ในบางส่วน ส่วนเวชระเบียนไม่ได้เลย ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า รพ.ตำรวจ ไม่ได้ให้ความร่วมมือ ไม่ส่งเวชระเบียน จนทำให้วันนี้พวกตนมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาหาลูกของผู้ป่วยเทวดา เนื่องจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวของนายทักษิณ ต้องใช้ตำแหน่งในฐานะนายกฯ เพื่อคงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐนิติธรรมของประเทศไทย

ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า คนที่มีอำนาจสั่งการหน่วยงานต่าง ๆ มากที่สุด คือ น.ส.แพทองธาร จึงยื่นหนังสือให้สั่งการราชทัณฑ์แสดงเอกสารเวชระเบียน พร้อมให้หน่วยงานต่าง ๆ เช่น ป.ป.ช. แพทยสภา รวมถึงศาลยุติธรรม พิจารณากรณีดังกล่าวภายในอาทิตย์หน้า มิเช่นนั้น อาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นโดยทุจริต  

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า เวชระเบียนของผู้ป่วยคนเดียว ต้องอยู่ในไฟล์เดียวกัน อีกทั้งโรคที่นายทักษิณกล่าวอ้าง เช่น โรคหัวใจนั้น เป็นโรคเสื่อมสภาพตามอายุในผู้สูงอายุ ส่วนอาการแน่นหน้าอกและความดัน คลินิกทั่วไปก็สามารถรักษาได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากนายทักษิณกลัวเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เหตุใดถึงมีเพียงศัลยแพทย์ที่คอยดูแล นอกจากนี้ ตามหลักการ แพทย์ไม่ทำการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถให้ภาพความคมชัดสูง (เอ็มอาร์ไอ) ให้ผู้ป่วยวิกฤติ จึงมองว่าไม่ได้ป่วยวิกฤติและเป็นละครฉากหนึ่งเท่านั้น  

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า หลายคนตั้งคำถามกับตนว่าในแผ่นดินนี้ไม่มีใครจัดการความอหังการ์ของนายทักษิณได้ ตนมองว่าไม่มีอะไรแน่นอน “เพราะบางครั้งก็ส่งเชือกให้ฝั่งตรงข้ามผูกคอตาย แต่บางครั้งก็ชวนมากินไวน์ด้วยกัน ตั้งแต่บ้านเมืองนี้ไม่ตรงไปตรงมา หลังจากวันที่นายทักษิณกลับมายังประเทศไทย“

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันแรกที่นายทักษิณ ลงข้อความบนแอพพลิเคชั่น X (เอ็กซ์) บอกว่าขออนุญาตกลับบ้านมาเลี้ยงหลานเพราะแก่แล้ว หลายคนคงตั้งคำถามว่านายทักษิณได้ขออนุญาตใคร แต่ทันทีที่นายทักษิณลงเครื่อง ซึ่งเราก็เห็นถึงความไม่ปกติมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมาถึงประเทศไทย ตำรวจไม่มีการควบคุมตัว และไม่มีการคุมขังและอยู่ในเรือนจำไม่กี่ชั่วโมง กลับมีอาการป่วยขั้นวิกฤต และที่น่าสงสัยที่สุดคือ พยาบาลเป็นคนบอกว่าป่วยวิกฤติสะเอง ทั้งที่จริงควรจะเป็นหมอ

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะที่ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ที่ออกมาพูดถึงเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ และ รพ.ตำรวจ ที่เหมือนห้องรับแขก และตอนนี้หลายคนคงสงสัยในเรื่องของเวชชระเบียนที่ยากลำบากในการจะตอบ เพราะมันไม่มีความตรงไปตรงมา และตอนแรกที่นายทักษิณอ้างว่ามีการป่วยวิกฤตนั้น แต่ตอนนี้ กลับกลายมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีนายทักษิณ ได้มีการปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) ในนามพรรคเพื่อไทย โดยตอนหนึ่งได้ลั่นวาจาว่า “โกงพ่อมึงสิ ” ซึ่งตนมองว่านายทักษิณลืมไปว่าเคยมีการยื่นถวายฎีกากับพระเจ้าแผ่นดินเลยถูกบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการ ซึ่งนายทักษิณเคยมีการยอมรับว่าตนกระทำความผิดและมีการทุจริตคอรัปชั่นจริง ซึ่งได้พูดคำนี้กับพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้พูดกับประชาชน

นายจตุพร ยังกล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม หากองค์กรทำตามหน้าที่ ประชาชนคงไม่ต้องเดือดร้อนมาลงถนน แต่เมื่อไม่มีการทำหน้าที่ของหน่วยงานจริงๆ จึงเป็นหน้าที่ของพวกประชาชนคนไทย ที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการในเรื่องนี้ ทั้งนี้หากนายทักษิณป่วยปลอมจริง น.ส.แพทองธาร ก็จะเข้าข่ายการกระทำความผิดด้วย เพราะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางตำรวจก็กำกับดูแลในเรื่องของ รพ.ตำรวจ ตนจึงมองอีกว่า

“ถ้าคิดอยากจะหนีเหมือนพ่อ เหมือนอา ก็ทำกันต่อไป แต่ถ้าอยากจะอยู่แผ่นดินไทย ก็อย่าได้ทำเหมือนสิ่งที่เคยทำมา” นายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศบริเวณทำเนียบรัฐบาล ภายนอกอาคารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายสิบตำรวจ สายปราบปราม กองร้อยน้ำหวานหญิง มาดูแลความปลอดภัย และภายหลังจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้กล่าว ปราศรัยเสร็จ กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้เคลื่อนตัวไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาล ประตู 3 เพื่อทำการยื่นหนังสือพร้อมอ่านรายชื่อแถลงการณ์ ถึง น.ส.แพทองธาร ผ่าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง รับยื่นหนังสือ หลังจากนั้นกลุ่มแยกย้ายเดินทางกลับ .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]